posttoday

ลงทุนทองอย่างไร ให้ก้าวทันตลาด

18 กันยายน 2560

โดย...นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานบริษัท เอ็มทีเอสโกลด์ แม่ทองสุก

โดย...นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานบริษัท เอ็มทีเอสโกลด์ แม่ทองสุก

ตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนทุกท่านคงปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดการเงินรวมทั้งตลาดทองคำมีความผันผวนและแกว่งตัวอย่างรวดเร็ว จากที่ขึ้นก็มีลงและจากที่ลงก็มีขึ้น อันเนื่องมาจากกระแสข่าวหลักๆ ในตลาด ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือที่สร้างความตึงเครียดเพิ่มขึ้นในคาบสมุทรเกาหลีและยกระดับความตึงเครียดในภูมิภาคมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากในช่วงปลายสัปดาห์ที่ทางเกาหลีเหนือได้ออกมาข่มขู่จะทำการโจมตีญี่ปุ่นและสหรัฐ ก็ส่งผลให้สินค้าในกลุ่มสินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ ทองคำ และค่าเงินเยน ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

ราคาทองคำกลับมายืนเหนือ 1,320 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์อีกครั้ง โดยที่ไม่สนใจกับข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐที่ออกมาดีขึ้นเกินคาด ทั้งข้อมูลราคาดัชนีผู้ผลิต (PPI) ในคืนวันพุธที่ออกมา 0.2% จากระดับ -0.1% ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในคืนวันพฤหัสบดีก็ออกมาดีขึ้นเช่นกันที่ระดับ 0.4% จากระดับ 0.1%

แต่ตลาดกลับให้ความสนใจว่าจะมีเหตุความรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ และในเช้าวันศุกร์ราคาดีดกลับขึ้นมาแถวระดับ 1,330 ดอลลาร์/ออนซ์อีกครั้ง หลังจากที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธข้ามเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่นและตกลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก แต่ในระหว่างวันซื้อขายวันศุกร์ก็จะเห็นได้ว่าเมื่อสถานการณ์ความตึงเครียดไม่มีข่าวใหม่ใดๆ เข้ามา ก็ทำให้นักลงทุนในตลาดกลับมาให้ความสนใจกับข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐอีกครั้ง

เนื่องจากเกิดกระแสคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีกหนึ่งครั้งในการประชุมเดือน ธ.ค. อันจะเห็นได้จากรายงานล่าสุดของ CME Group ที่ชี้ให้เห็นว่า เฟดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ประมาณ 52% จากระดับ 42% ก่อนทราบข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดกลับมาให้ความสนใจกับการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้าระหว่าง 19-20 ก.ย.นี้ ว่าจะมีการประกาศถึงแผนเวลาการเริ่มต้นปรับลดยอดงบดุลในวาระประชุมนี้หรือไม่

อย่างไรก็ดี MTS Gold ยังย้ำเน้นกับนักลงทุนเสมอว่า เมื่อโลกแห่งการลงทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากการรับรู้ข่าวสารผ่านทางอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีต่างๆ นักลงทุนจึงควรเฝ้าติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด และมีการปรับพอร์ตการลงทุนให้ทันกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเป็นลักษณะการลงทุนที่ไม่ฝืนแนวโน้ม

อันหมายความว่า เมื่อแนวโน้มของราคาทองคำไปในทิศทางใด ก็ควรจะใช้กลยุทธ์การลงทุนไปในทิศทางนั้นๆ ไม่ใช้อารมณ์หรือยึดความคิดของตนเองเป็นหลักในการลงทุน เพราะการลงทุนที่ดี นักลงทุนจะต้องมีการติดตามข่าวสารการลงทุนและบทวิเคราะห์มาประกอบการตัดสินใจลงทุนอยู่เสมอ รวมไปถึงการมีเครื่องมือที่เหมาะสมในการลงทุนเพื่อช่วยในการลงทุนได้อย่างทันท่วงที

วิเคราะห์ทางเทคนิค

ราคาทองคำมีความผันผวนระยะสั้นจากแรงเทขายทำกำไร โดยระยะสั้นจะมีแนวรับสำคัญ 1,320 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 30 วันของนักลงทุนรายวัน สำหรับแนวต้านด้านบนระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 1,340 ดอลลาร์

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนในช่วงสั้น จึงเป็นการลงทุนในกรอบ ซึ่งหากราคาทองคำหลุด 1,320 ดอลลาร์ลงมา ก็มีโอกาสจะทำให้ภาพระยะสั้นของทองคำกลับมาเป็นขาลงได้อีกครั้งหนึ่ง แต่หากทองคำยังสามารถยืนเหนือ 1,330 ดอลลาร์ ก็จะทำให้ภาพระยะกลางและระยะยาวยังเป็นขาขึ้นอยู่

ดังนั้น กลยุทธ์หลักจึงยังเป็นแนวโน้มขาขึ้น ขณะที่แนวโน้มระยะสั้นๆ แนะนำให้ปรับสภาพการลงทุนของให้ทันกับสภาพตลาด และเน้นย้ำว่าการใช้ Leverage จำนวนไม่มากจึงเป็นความจำเป็นที่จะทำให้นักลงทุนติดตามตลาดได้ทุกสภาวะ และขอให้ท่านโชคดีในการลงทุน...