Gold D มาแล้ว!! (1)

โดย...นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานบริษัท เอ็มทีเอสโกลด์ แม่ทองสุก

ภาวะการลงทุนในทองคำน่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย หรือ TFEX ได้ประกาศอย่างเป็นทางการในการที่จะออกสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เรียกว่า “GOLD-D” ซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ก็คือ สัญญา Gold Futures นั่นเอง โดยในช่วงต้นสินค้า “GOLD-D” จะไม่มีการรับส่งมอบทองคำแท่ง

แต่มีข้อพิเศษที่ผมเองคิดว่าน่าจะประสบความสำเร็จได้ดี นั่นก็คือมีหน่วยการซื้อขายของราคาเป็น USD/OZ หมายความว่าเป็นหน่วยที่แตกต่างจาก Gold Futures ในปัจจุบันที่มีหน่วยเป็นบาทต่อบาททองคำ ความดีอันที่ 2 คือ “GOLD-D” ที่จะเปิดตัว คือ ใช้ทองคำบริสุทธิ์ 99.99% เช่นเดียวกับตลาดโลก ดังนั้นราคาที่ใช้ซื้อขายกับ “GOLD-D” จะมีการอ้างอิงและล้อไปกับทิศทางตลาดโลก จึงทำให้ “GOLD-D” จะมีสภาพคล่องในการซื้อขายสูงเช่นเดียวกับตลาดโลกเลยทีเดียว

แล้ว Gold-D จะดีอย่างไร

ที่มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นี้จะประสบความสำเร็จ เพราะว่าการ Quote ราคาซื้อขายและถือครองเป็น USD/OZ จึงจะทำให้นักลงทุนง่ายต่อการวิเคราะห์และการลงทุน รวมทั้งการหาผลกำไรจากการลงทุนได้จากความเสี่ยงที่ตรงไปตรงมาตัวเดียวนั่นก็คือ “ราคาทองคำตลาดโลก” ซึ่งหากเปรียบเทียบกับ Gold Futures ที่ Quote ราคาเป็น บาทต่อบาททองคำ ตรงจุดนี้จะมีความเสี่ยง 2 ตัว คือ

ประการแรก “ราคาทองคำของตลาดโลกและความผันผวนของค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ” จึงทำให้หลายครั้งนักลงทุนในตลาด Gold Futures เกิดความเบื่อหน่าย เพราะราคาทองคำมีกลไกที่สลับซับซ้อนต่างกันไปจากตลาดโลก ขณะที่ความบริสุทธิ์ของทองคำไทยที่ใช้เป็น 96.5% จึงทำให้การ Quote ราคานั้นเป็นไปได้ยากมากขึ้นตามกระบวนการของเงินบาท

ประการที่ 2 ที่นักลงทุนจะเห็นได้ คือ สภาพคล่องที่เหือดหายไปจากเมื่อ 4 ปีก่อน ที่มีสภาพคล่องในตลาดสูงมาก

แต่ขณะนี้ Gold Futures ที่มีหน่วยเป็นบาทต่อบาททองคำมีสภาพคล่องที่ไม่สูงนัก หมายความว่าหากมีนักลงทุนรายใหญ่ หรือสถาบันที่มีเงินจำนวนมากๆ จะไม่สามารถซื้อขายได้ในท้องตลาด Gold Futures ได้อย่างคล่องตัว นั่นหมายความว่า Market Maker จะไม่สามารถทำตามกลไกของตลาดตามที่ควรจะเป็นได้ และเมื่อกลับมาพิจารณา “GOLD-D” เมื่อใช้หน่วย Quote เป็นราคาดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และใช้ทองคำมาตรฐาน 99.99% ตามตลาดโลก ก็จะทำให้ Market Maker ทำงานได้ตามสภาพตลาดที่มีสภาพคล่องสูงกว่าเป็นวินาที อันจะหมายถึงสภาพคล่องที่จะมีการซื้อขายสมบูรณ์ดังเช่นในตลาดโลก

ดังนั้น ด้วยเหตุผลและปัจจัย 2 ประการดังกล่าวข้างต้น จึงจะทำให้ตัวของ “GOLD-D” ที่จะ Launch ออกมาในวันที่ 4 ก.ย. 2560 หรือที่จะถึงในอีกประมาณ 10 วันข้างหน้านี้ ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความสมบูรณ์และมีความน่าลงทุนอย่างยิ่ง เนื่องจากสภาพของผลิตภัณฑ์นั้นมีความล้อเลียนกับตลาดโลกอย่างตรงไปตรงมา

ผมเองขอให้ความมั่นใจกับนักลงทุนว่า “GOLD-D” จะเป็นพระเอกตัวจริงสำหรับนักลงทุนในตลาดทองคำของไทย และจะสามารถเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประเทศเพื่อนบ้านให้การสนใจและมาลงทุนได้อีกด้วยเช่นกัน เพราะว่าอุตสาหกรรมการลงทุนทองคำในไทยมีความแข็งแกร่งเช่นเดียวกับตลาดโลกแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นความภาคภูมิใจของพวกเราบรรดาโบรกเกอร์ ในตลาดสัญญาการซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ที่พยายามผลักดันผลิตภัณฑ์ตัวนี้มานานกว่า 3-4 ปีแล้ว