posttoday

สะสมหุ้น 4 กลุ่มรับดัชนีวิ่งขึ้น กรอบ 1637-1565 จุด

14 สิงหาคม 2560

โดย...บล.โนมูระพัฒนสินบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน (CNS) ได้ออกบทวิเคราะห์แนะนำการลงทุนในเดือน ส.ค. 2560 ภายใต้สถานการณ์ที่ยังคงมีความผันผวนและมีหลายปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะวันที่ 25 ส.ค.นี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะตัดสินคดีอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คดีจำนำข้าว ซึ่งเป็นประเด็นที่สนใจของนักลงทุนนอกจากนี้ การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง และจะสิ้นสุดกลางเดือน ส.ค.นี้ กดดันการลงทุนไทยมาตลอด 3-4 เดือนที่ผ่านมา เพราะจะเป็นตัวชี้วัดถึงทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่อยู่ในช่วงของฤดูกาลที่จะมีการประกาศจ่ายเงินปันผลกลางปีซึ่งน่าจะลดแรงกดดันได้ในระดับหนึ่งอย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ในการลงทุนงวดไตรมาส 3 ของปีนั้น ทางฝ่ายวิจัยแนะนำให้ลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตทั้งเปรียบเทียบกับงวดก่อนหน้าและเมื่อเปรียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา เช่น 1.กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ที่แนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดเบรนต์ยืนเหนือ 52 ดาลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ประกอบกับค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้นเหนือ 8 ดอลลาร์/บาร์เรล อีกทั้งกําลังการผลิตของกลุ่มจะกลับสู่ปกติจะช่วยหนุนกลุ่มน

โดย...บล.โนมูระพัฒนสิน

บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน (CNS) ได้ออกบทวิเคราะห์แนะนำการลงทุนในเดือน ส.ค. 2560 ภายใต้สถานการณ์ที่ยังคงมีความผันผวนและมีหลายปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะวันที่ 25 ส.ค.นี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะตัดสินคดีอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คดีจำนำข้าว ซึ่งเป็นประเด็นที่สนใจของนักลงทุน

นอกจากนี้ การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง และจะสิ้นสุดกลางเดือน ส.ค.นี้ กดดันการลงทุนไทยมาตลอด 3-4 เดือนที่ผ่านมา เพราะจะเป็นตัวชี้วัดถึงทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่อยู่ในช่วงของฤดูกาล
ที่จะมีการประกาศจ่ายเงินปันผลกลางปีซึ่งน่าจะลดแรงกดดันได้ในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ในการลงทุนงวดไตรมาส 3 ของปีนั้น ทางฝ่ายวิจัยแนะนำให้ลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตทั้งเปรียบเทียบกับงวดก่อนหน้าและเมื่อเปรียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา เช่น 1.กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ที่แนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดเบรนต์ยืนเหนือ 52 ดาลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ประกอบกับค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้นเหนือ 8 ดอลลาร์/บาร์เรล อีกทั้งกําลังการผลิตของกลุ่มจะกลับสู่ปกติจะช่วยหนุนกลุ่มนี้ให้นําตลาด

2) ไอซีที ทิศทางรายได้ของกลุ่มที่เริ่มเติบโตบวกปัจจัยหนุนเรื่องการลดค่า USO 3.75% สู่ 2.5% อีกทั้งยังมีปันผลระหว่างกาลที่สูง 3) กลุ่มค้าปลีก ราคาสินค้าเกษตรค่อยๆ ฟื้น ประกอบช่วงหน้าฝนที่มาเร็วในไตรมาส 2 ก็น่าจะสิ้นสุดไวในต้นไตรมาส 3 ปีนี้ จะทําให้รายได้กลุ่มเริ่มฟื้นตัวรอบใหม่จากฐานต่ำ และ 4) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวคือ โรงพยาบาล (รพ.) และโรงแรม ที่กําลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาลทิศทางดังกล่าวทําให้หุ้นกลุ่มเหล่านี้มีน้ำหนักพยุงตลาดค่อยๆ ขึ้นได้ ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังต้องดูการขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐต่อเนื่อง หากเดินหน้าไวจะหนุนกลุ่มภาคการลงทุนอีกทางหนึ่ง ส่วนทิศทางสินทรัพย์เสี่ยงโลกยังมีภาพเชิงบวกรับอานิสงส์เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว และการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินโลกยังมีทิศทางแบบค่อยเป็นค่อยไป นั่นทําให้กระแสเงินโดยรวมยังเข้าไทย และค่าเงินบาทกําลังจะแข็งค่าแตะ 33 บาท/ดอลลาร์ ตามมุมมองกลยุทธ์ไตรมาส 3 (Dollar Index อ่อนค่ากว่าคาดหลุด 95 จุด สู่ 92.92 จุดแล้ว) ทําให้โอกาสที่จะเห็นนักลงทุนต่างชาติทยอยสะสมหุ้นไทยในช่วงถัดไป ประเมินดัชนีจะแกว่งขึ้นสู่แนวต้าน 1,610/1,637 จุด แนวรับ 1,570/1,565 จุด

กลยุทธ์ลงทุนเพื่อรับกรอบดัชนีหุ้นที่ขยับขึ้น โดยแนะนำให้คงพอร์ตลงทุนหุ้น 70% โดยแนะนำกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีในหุ้นพีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) บางจากปิโตรเลียม (BCP) ไออาร์พีซี (IRPC) ปตท. (PTT) นําตลาดผสาน
ไอซีทีที่ปันผลสูง และผลประกอบการอยู่ช่วงฟื้นตัว แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส (ADVANC) อินทัช คอร์ปอเรชั่น (INTUCH) และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากฤดูกาล โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ดิ เอราวัณกรุ๊ป (ERW) และรอหลังงบครึ่งปี ให้สะสมหุ้นค้าปลีกและการบิน เบอร์ลี่ยุคเกอร์ (BJC) ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน (ROBINS) สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) การบินกรุงเทพ (BA) เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ผสานกลุ่มมาร์เก็ตแคปขนาดกลาง พื้นฐานเด่น พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง (PM) เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี (PSTC) บางกอกแลนด์ (BLAND) โมโน เทคโนโลยี (MONO) แพลน บี มีเดีย (PLANB) เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ (SNC) และกลุ่มที่คาดว่า FTSE จะนําเข้าดัชนีรอบใหม่ ประกาศสิ้นเดือน ส.ค.นี้ คือ พลังงานบริสุทธิ์ (EA)

รวมถึงรอดูการประกาศทบทวนการคำนวณน้ำหนักของดัชนี MSCI ที่จะประกาศและมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ก.ย. 2560 และการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะประชุมในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ซึ่งตลาดคาดกันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย