posttoday

INDICATOR ตัวช่วยการลงทุน

24 กรกฎาคม 2560

โดย...นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานบริษัท เอ็มทีเอสโกลด์ แม่ทองสุก

โดย...นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานบริษัท เอ็มทีเอสโกลด์ แม่ทองสุก

ในโลกของการลงทุนนอกจากนักลงทุนต้องเข้าใจปัจจัยพื้นฐานการลงทุนแล้ว สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่นักลงทุนควรศึกษาเพื่อให้ลงทุนในตลาดการเงินหรือตลาดทองคำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น คือการเรียนรู้เรื่องของปัจจัยทางเทคนิค และอีกหนึ่งองค์ประกอบของการลงทุน คือ การมีเครื่องมือการลงทุนที่เหมาะสม ปัจจุบันเครื่องมือการลงทุนที่ทันสมัยคงหนีไม่พ้น Meta Trader 4 หรือ MT4 ซึ่งเป็นเครื่องมือการลงทุนที่รองรับกับระบบ AUTO TRADE ที่มีการพัฒนาต่อเนื่องเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น โดยโปรแกรม MT4 หากนักลงทุนที่ได้เคยทดลองใช้งาน หรือมีการใช้งานอยู่จะทราบดีว่าเป็นเครื่องมือที่มี Indicator หรือเครื่องมือชี้วัดการเคลื่อนไหวของราคากราฟบนหน้าจอ ซึ่งการศึกษาเรื่อง Indicator อาจจะมีความสลับซับซ้อนอยู่บ้าง เนื่องจาก Indicator ที่นักลงทุนนิยมใช้มีความแตกต่างกันไปตามแต่ละตัวบุคคล บางคนอาจจะเน้นจับสัญญาณจาก Indicator เพียงตัวเดียวโดยมิได้สนใจ Indicator ตัวอื่นๆ ขณะเดียวกันก็มีนักลงทุนที่นิยมชมชอบการประเมินทิศทางโดยการอาศัย Indicator หลายๆ ตัว เพื่อยืนยันทิศทางการลงทุนก่อนตัดสินใจ ซึ่งในความเป็นจริงนั้นก็ไม่อาจบอกได้ว่า Indicator ที่แพร่หลายในปัจจุบันตัวไหนจะเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุด เพราะคุณสมบัติหรือจุดเด่นของแต่ละ Indicator นั้นมีความแตกต่างกันไป นักลงทุนจึงควรศึกษาการลงทุนให้ครบทุกด้านไม่ว่าจะเป็นปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยทางเทคนิค และการมีพร้อมทางด้านเครื่องมือการลงทุน

ขณะที่ทิศทางทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้น หลังราคากลับมายืนเหนือระดับ 1,230 ดอลลาร์สหรัฐได้อีกครั้ง อานิสงส์การอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ในรอบเกือบปีบริเวณ 94.090 จุด จากที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐส่วนใหญ่ไม่ค่อยดีจึงลดกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ลงไป ประกอบกับถ้อยแถลงของอีซีบีในเชิงคุมเข้มทางการเงินที่จะเริ่มดำเนินการหารือปรับนโยบายการเงินในช่วงเดือน ก.ย.นี้ ก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันดอลลาร์จากค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นในรอบเกือบ 2 เดือนแถวระดับ 1.63 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ประเด็นสำคัญที่ตลาดให้ความสนใจอีกเรื่องหนึ่ง คือ ความล้มเหลวในการผลักดันร่างกฎหมาย Healthcare ของทีมบริหารทรัมป์ให้ผ่านทางสภาคองเกรสนำมาใช้จริง ทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐมากขึ้น และกังวลว่าทรัมป์จะดำเนินการตามที่ได้หาเสียงไว้หรือไม่ เฉพาะนโยบายลดภาษีอาจไม่สามารถลดภาษีนิติบุคคลที่ระดับ 15% ได้ โดยอาจมีการปรับทบทวนให้ปรับลดลงสู่ระดับ 20% แทน จากระดับ 35% ทางด้านกองทุน SPDR ตลอดสัปดาห์เทขายออกกว่า 12 ตัน นับตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. จนถึง 20 ก.ค. กองทุน SPDR ขายสุทธิ 36.38 ตัน ถือเป็นระดับการขายรายเดือนมากที่สุดปีนี้

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

สัปดาห์ที่ผ่านมาภาพทางเทคนิคของราคาทองคำเริ่มกลับเป็นแนวโน้มทิศทางขาขึ้น มีแนวต้านสำคัญที่ 1,255 ดอลลาร์ และมีแนวรับ 1,230 ดอลลาร์ หากราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นและทะลุขึ้นเหนือแนวต้าน 1,248 ดอลลาร์ ทำให้ภาพในระยะปานกลางของทองคำกลับเข้าสู่ทิศทางขาขึ้นอีกครั้ง แนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรในกรอบขาขึ้นระยะสั้น หาจังหวะช้อนซื้อบริเวณแนวรับ และขายปิดทำกำไรบริเวณแนวต้าน ทองไทยอาจจะปรับตัวขึ้นได้ไม่ไกลนักตามราคาทองคำตลาดโลก เพราะยังมีปัจจัยกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า จึงคาดว่าราคาทองคำไทยจะยังมีแนวรับ 19,600 บาท/บาททองคำ และแนวต้าน 19,850 บาท/บาททองคำ

สรุปได้ว่า เมื่อเราเข้าใจปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค พร้อมกับมีเครื่องมือการลงทุนที่เหมาะสมแล้ว ก็จะช่วยให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ความสำคัญของการลงทุนในโลกยุคปัจจุบันคือการเรียนรู้และก้าวให้ทันตามข่าวสารที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทางบริษัทมีบริการข้อมูลข่าวสารและบทวิเคราะห์ทุกวันทำการผ่านทาง www.mtsgold.co.th