หุ้นเริ่มแกว่ง

โดย...พิชัย เลิศสุพงศ์กิจ, CFP, และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.หลักทรัพย์ ธนชาต email: [email protected]

สัปดาห์ที่ผ่านมา ความผันผวนในตลาดการเงินโลกพุ่งขึ้นอีกครั้ง ราคาพันธบัตรทั่วโลกทรุดดันบอนด์ยิลด์ไต่สูงขึ้น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรุ่น 10 ปี ยิลด์เด้งขึ้นจากจุดต่ำเมื่อกลางเดือน มิ.ย. ถึงราว 0.15% ด้านพันธบัตรอังกฤษและเยอรมนี รุ่น 10 ปี ยิลด์เด้งแรงราว 0.1% ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนต่อเนื่องสู่ระดับ 95.6 จุด ต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ขณะที่ค่าเงินบาทยังคงทรงใกล้ 34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 ปี

ราคาน้ำมันดิบกระเตื้องขึ้น 7 วันติด จากจุดต่ำสุดในรอบ 8-9 เดือน เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ช่วงนั้นมีความวิตกสูงต่อภาวะน้ำมันล้นตลาดหุ้นกลุ่มพลังงานที่เด้งแรงจากกลางปี 2559 ถอยลงสู่จุดต่ำสุดในรอบปีนี้ หลังเผชิญแรงกดดันจากราคาน้ำมันตกต่ำดัชนีตลาดหุ้นหลักเผชิญแรงขายทำกำไรหลังวิ่งขึ้นมาไกลในปีนี้

น่าสังเกตว่ามีแรงขายทำกำไรในหุ้นเทคโนโลยีที่ขึ้นแรงในปีนี้ และโยกย้ายเม็ดเงินเข้าหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ทั้ง 34 แห่งในสหรัฐ ผ่านการทดสอบหากเผชิญภาวะวิกฤต (Stress Test) นำไปสู่การคาดการณ์ว่า หุ้นธนาคารจะเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผล หรือซื้อหุ้นกิจการตัวเองคืนบางส่วนจากตลาดหุ้นการดีดขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารในตลาดหุ้นหลัก ทำให้มูลค่าหุ้นเชิงเปรียบเทียบของหุ้นแบงก์บ้านเราดูน่าสนใจมากขึ้น จึงมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่อย่างชัดเจนในสัปดาห์ที่ผ่านมา

แม้ดัชนีตลาดหุ้นโลกจะย่อลงบ้างในช่วงปลายสัปดาห์ แต่ผลตอบแทนในช่วงครึ่งปีแรกยังคงโดดเด่น 12.5% นำโด่งโดยตลาดหุ้นเกิดใหม่แถบเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ (+18%) ฮ่องกง (+17%) อินเดีย (+16%) ส่วนของหุ้นไทยอยู่ที่เพียง 2% ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ได้แรงหนุนจากมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจโลก ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาด นำไปสู่การปรับขึ้นประมาณการกำไรหุ้นโลกต่อเนื่องจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ด้านมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยค่อยๆ ดีขึ้นในช่วงสัปดาห์หลัง แต่ยังคงตามหลังการฟื้นตัวของเพื่อนบ้านพอสมควรตัวเลขส่งออกเดือน พ.ค.เร่งตัวขึ้น พาณิชย์รายงานว่าโต 13.2% ส่วนแบงก์ชาติรายงานว่าขยายตัว 10.6% เทียบกับของประเทศเพื่อนบ้านที่ส่งออกเติบโต 2 หลัก มาตั้งแต่ต้นปี

ด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการเร่งพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) มีความคืบหน้าเป็นลำดับ ได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและนิคมอุตสาหกรรมที่มีฐานส่วนใหญ่ในอีอีซี สัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางหลายแห่งได้ออกโรงเตือนถึงผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยต่ำ

ยาวนาน แม้อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางหลักๆ ก็ตาม ผู้ลงทุนส่วนหนึ่งจึงใช้เป็นเหตุผลในการขายทำกำไรตราสารหนี้ที่ขึ้นมามากก่อนหน้านี้ ส่งผลให้บอนด์ยิลด์เด้งขึ้น อย่างไรก็ตามแรงกดดันเงินเฟ้อทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับต่ำ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจึงน่าจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป กรณีบ้านเราเศรษฐกิจยังฟื้นตัวล่าช้าเมื่อเทียบกับของเพื่อนบ้าน ขณะที่สภาพคล่องทางการเงินยังอยู่ในระดับสูงมาก จากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสะสมไว้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ดอกเบี้ยบ้านเราจึงยังคงมีแนวโน้มไต่ขึ้นอย่างช้าๆ

สรุปว่า หุ้นไทยขึ้นน้อยกว่าตลาดหุ้นโลก หลักๆ มาจากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวค่อนข้างช้า เมื่อเทียบเคียงกับของภูมิภาคอื่น นอกจากนั้นหุ้นขนาดใหญ่มีโอกาสทำกำไรจำกัด เช่น หุ้นกลุ่มพลังงานที่เผชิญภาวะน้ำมันล้นตลาด

ต้องตามดูว่ามุมมองเศรษฐกิจไทยที่เริ่มดีขึ้น จะนำไปสู่การปรับขึ้นประมาณการกำไรและมูลค่าหุ้นในวงกว้างได้มากน้อยแค่ไหน

ปลายที่ผ่านมาการปรับน้ำหนักลงทุนในดัชนี SET50/SET100 รวมถึงการทำราคาปิดเพื่อตกแต่งบัญชี ทำให้ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องแกว่งผิดปกติ สัปดาห์นี้น่าจะเข้าที่เข้าทางมากขึ้น และเชื่อว่าในระยะยาวราคาตลาดมักสะท้อนมูลค่าพื้นฐานความสนใจของนักลงทุนจะเปลี่ยนไปที่การรายงานงบไตรมาส 2 และการจ่ายปันผลระหว่างกาล ที่จะเริ่มต้นตั้ังแต่กลางเดือน ก.ค. ก่อนถึงเส้นตายในกลางเดือน ส.ค. ต้องจับตาดูต่อไปว่าจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนประมาณการกำไรในทิศทางใด แม้ตลาดอาจแกว่งผันผวนบ้าง แต่ด้วยสภาพคล่องที่สูงจะช่วยจำกัดความเสี่ยงด้านล่าง แนะเลือกซื้อหุ้นรายตัว เน้นที่ผลกำไรไตรมาส 2 โดดเด่น และ/หรือมีปันผลระหว่างกาลในเกณฑ์สูง ทั้งนี้สามารถติดตามบทวิเคราะห์รายหุ้นของธนชาตผ่านแอพพลิเคชั่น Think ที่พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้ววันนี้ ทั้งในระบบ iOS และ Android ดาวโหลดที่นี่ https://goo.gl/BhhePK

พบกันใหม่สวัสดีครับ