ข้อคิด 7 ประการ จากเจ้าพ่อแวนการ์ด กรุ๊ป

โดย...ทนง ขันทอง กองทุนบัวหลวง

ยอมรับกันว่า จอห์น โบเกิล ผู้ก่อตั้ง แวนการ์ด กรุ๊ป เป็นผู้ที่ช่วยแนะนำนักลงทุนเดินดินธรรมดาที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในระยะยาว และฉลามที่หิวโหยจากวอลสตรีทอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เขาเขียนหนังสือ Enough : True Measures of Money, Business, and Life ซึ่งเขาถือว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของชีวิตการทำงาน หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ในปี 2551 ขณะที่ โบเกิล ก้าวเข้าสู่ช่วงวัย 80 ปี และในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เขามีอายุครบ 88 ปี

โบเกิล มีคำแนะนำการลงทุน 7 ประการ ซึ่งนักลงทุนทั่วไปสามารถเรียนรู้ได้จากเขา

1.Invest you must. คุณต้องลงทุน ความเสี่ยงใหญ่หลวงที่สุดที่นักลงทุนต้องเผชิญนั้น ไม่ใช่ความผันผวนระยะสั้น แต่เป็นความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับผลตอบแทนอย่างเพียงพอกับเงินต้น ในขณะที่มันกำลังสะสมความมั่งคั่ง

2.Time is your friend. เวลาเป็นมิตรของคุณ การลงทุนเป็นพฤติกรรมที่ถือว่าเป็นความดีงาม ซึ่งควรจะเริ่มต้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ให้มีความสุขกับผลตอบแทนที่ทวีคูณ แม้ว่าจะลงทุนด้วยจำนวนเงินพอประมาณในช่วงที่เราอายุ 20 ปีต้นๆ แต่เงินที่ลงทุนจะเติบโตในจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ตลอดช่วงอายุของการลงทุน

3.Impulse is your enemy. แรงกระตุ้นเป็นศัตรูของคุณ ให้ขจัดอารมณ์ความรู้สึกออกไปจากโปรแกรมการลงทุน ให้คาดหวังอย่าง
สมเหตุสมผลต่อผลตอบแทนในอนาคต และจงหลีกเลี่ยงที่จะเปลี่ยนความคาดหวัง เป็นปฏิกิริยาต่อเสียงร้องจากวอลสตรีท ให้หลีกเลี่ยงที่จะลงทุนในสิ่งที่ดูเหมือนเป็นความคิดที่ไม่เหมือนใคร ทั้งที่จริงแล้วคนหลายล้านก็รู้เหมือนกัน

4.Basic arithmetic works. คณิตศาสตร์พื้นฐานใช้งานได้ ผลตอบแทนสุทธิมาจากผลตอบแทนโดยรวมของพอร์ตการลงทุนหักลบด้วยค่าใช้จ่ายในการลงทุน คุมค่าใช้จ่ายในการลงทุนให้อยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากเผด็จการจากค่าใช้จ่ายการลงทุนที่ทบต้นสามารถทำลายความมหัศจรรย์ของผลตอบแทนที่ทบต้น

5.Stick to simplicity. ยึดมั่นในความเรียบง่าย การลงทุนแบบพื้นฐานเป็นเรื่องเรียบง่าย ควรจัดเงินลงทุนที่มีเหตุผลไปยังหุ้น พันธบัตร และเงินสดสำรอง เลือกแบบกระจายความเสี่ยงหุ้นที่มีเกรดสูงที่ไปได้ดีในระยะปานกลาง และยังต้องถ่วงดุลอย่างระมัดระวัง ระหว่างความเสี่ยง ผลตอบแทน และค่าใช้จ่ายในการลงทุน

6.Never forget reversion to the mean. อย่าลืมหันกลับไปยังค่าเฉลี่ย กองทุนรวมที่มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งมีแนวโน้มสูงที่จะย้อนกลับมายังค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้น หรืออาจจะต่ำกว่า

7.Stay the course. ให้ยืนพื้นอย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตลาด ให้ยืนในโปรแกรมการลงทุนอย่างเหนียวแน่น การเปลี่ยนยุทธศาสตร์ลงทุนในช่วงจังหวะผิด จะเป็นความผิดพลาดที่เลวร้ายที่สุดของคุณในฐานะนักลงทุน ให้ถามนักลงทุนที่ถอนการลงทุนจากหุ้นไปอยู่ในรูปเงินสด ในช่วงวิกฤตการการเงินที่เลวร้ายสุด ว่าเขาพลาดโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนจากตลาดกระทิงที่ดำเนินมาเป็นเวลา 8 ปี และกำลังจะไปต่ออย่างไร การยืนหยัดอย่างเหนียวแน่นในการลงทุนเป็นคำแนะนำที่สำคัญที่สุดที่ผมให้คุณได้