posttoday

ประกันขายธุรกิจ! ข้ามชาติ/รายเล็กเร่งดีล

02 พฤษภาคม 2561

จับตาการขายธุรกิจของบริษัท ประกันวินาศภัยในไทย ทั้งบริษัทในเครือข้ามชาติ บริษัทขนาดเล็ก เหตุแข่งขันสูง กำไรไม่คุ้มการลงทุน คาดได้ผลสรุปภายในปีนี้

โดย...วารุณี อินวันนา

ต้องจับตาการขายธุรกิจของบริษัท ประกันวินาศภัยในไทย ทั้งบริษัทในเครือข้ามชาติ บริษัทขนาดเล็ก เหตุแข่งขันสูง กำไรไม่คุ้มการลงทุน คาดได้ผลสรุปภายในปีนี้

ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง ระบุว่า บริษัท Insurance Australia Group Limited หรือไอเอจี จากประเทศออสเตรเลีย กำลังเจรจาขายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 4 ประเทศ มูลค่ารวม 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.55 หมื่นล้านบาท เหตุผลที่ต้องขายธุรกิจในภูมิภาคนี้เพราะทำรายได้ลดลงกว่า 50% ในปี ที่ผ่านมา โดยคาดว่าการเจรจาซื้อขายจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ของปีนี้

สำหรับบริษัท ไอเอจี ถือหุ้นในบริษัทประกันคุ้มภัย รวม 99% ผ่านการถือหุ้นทางตรงในนามบริษัท ไอเอจี อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งจดทะเบียนที่ประเทศออสเตรเลีย 49% และถือหุ้นทางอ้อมผ่าน บริษัท เอ็นเอชซีที จดทะเบียนในประเทศไทย 50%

ขณะที่ตัวแทนจากบริษัท ไอเอจี ออสเตรเลีย ออกมาปฏิเสธการออกจากตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยอมรับว่าบริษัทอยู่ระหว่างทบทวนกลยุทธ์ทางธุรกิจในภูมิภาคนี้ที่มีความน่าสนใจจากการที่อัตราการถือครองกรมธรรม์ยังต่ำ แต่ก็ยอมรับว่าการแข่งขันในภูมิภาคนี้สูงมาก

ด้าน ปีเตอร์ ฮาร์เมอร์ (Peter Harmer) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเอจี ออสเตรเลีย เปิดเผยในการรายงาน งบการเงินไตรมาส 1/2561 ว่าธุรกิจประกันภัยในเอเชียของบริษัทมีการเติบโตค่อนข้างจำกัด ทำให้ต้องทบทวนยุทธศาสตร์การทำธุรกิจระยะยาวในเอเชีย โดยจะเน้นการรุกตลาดที่บริษัทสามารถเติบโตได้ดี ทั้งผ่านการควบรวมกิจการและการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทท้องถิ่น การทบทวนนี้จะออกมารูปแบบใดคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปี 2561 นี้

ส่วนธุรกิจของไอเอจีในไทยไตรมาส 1/2561 เริ่มกลับมาทำกำไรได้แล้ว จากการที่ไม่มีลูกค้ารายใหญ่ได้รับความ เสียหายรุนแรง และการฟื้นตัวของยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ชดเชยเบี้ยประกันภัยลูกค้าองค์กรที่ลดลง

แหล่งข่าวจากบริษัทประกันภัย เปิดเผยว่า บริษัทเจ้าพระยาประกันภัย ที่อยู่ระหว่างการถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ให้หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว เพื่อแก้ไขฐานะทางการเงินให้เป็นไปตามเกณฑ์ภายในวันที่ 29 มิ.ย. 2561 กำลังศึกษาวิธีการแก้ปัญหาฐานะการเงิน ซึ่งมีทางเลือก 2 ทาง คือ การหาเงินสดมาเพิ่มทุนและชำระหนี้เจ้าหนี้และการขายธุรกิจให้กับบริษัทประกันวินาศภัยขนาดใหญ่ ที่เป็นเจ้าหนี้ประกันภัยรายใหญ่ โดยมีความเป็นไปได้สูงที่จะ ขายธุรกิจให้กับเจ้าหนี้ เพราะการแข่งขันในธุรกิจประกันวินาศภัยไทยค่อนข้างรุนแรง หากจะทำธุรกิจต่อไปจะต้องใช้เงินลงทุนสูง

สำหรับปี 2561 ได้เกิดการเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นในบริษัท ไทยเศรษฐกิจประกันภัย ด้วยการดึงผู้ร่วมทุนรายใหม่จากกลุ่มธุรกิจการเงิน อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง เข้ามาซื้อหุ้นจำนวน 98.2 ล้านบาท เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการต่อยอดธุรกิจและสร้างความมั่นคงด้านเงินทุน บริษัท ฟินิกซ์ประกันภัย (ประเทศไทย) ผู้ถือหุ้นเดิมได้ขายหุ้น 55% ให้บริษัทในกลุ่มเจมาร์ท เป็นเงินกว่า 390 ล้านบาท และเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เจพี ประกันภัย โดยมุ่งทำธุรกิจอินชัวร์เทค

ส่วนปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัท บูพา ประกันสุขภาพ ประเทศอังกฤษ ได้ขายธุรกิจในประเทศไทยทั้งหมด ให้กับบริษัท เอ็ทน่า อิงค์ ซึ่งเป็นผลมาจากการแข่งขันที่รุนแรง และหันไปมุ่งธุรกิจในประเทศที่มีกำไร และบริษัท สินทรัพย์ประกันภัย กลุ่มธุรกิจยานยนต์และอสังหาริมทรัพย์ ได้ขายหุ้นทั้งหมด ให้กับกลุ่มธุรกิจอัญมณีและเครื่อง ประดับของครอบครัวศรีอรทัยกุลรวม 93.5%

ทั้งนี้ ต้องจับตาดูว่าปี 2561 บริษัทประกันภัยในไทยรายใดจะมีการเปลี่ยนโฉมหน้าผู้ถือหุ้น เพื่อรับมือกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นทุกวัน