posttoday

กม.คุ้มครองข้อมูลอียูแรง

07 กุมภาพันธ์ 2561

ประกันไทยเครียดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สหภาพยุโรป มีผลบังคับใช้ 25 พ.ค.นี้ หวั่นรั่ว เสียค่าปรับมหาศาล

ประกันไทยเครียดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สหภาพยุโรป มีผลบังคับใช้ 25 พ.ค.นี้ หวั่นรั่ว เสียค่าปรับมหาศาล

แหล่งข่าวจากสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 พ.ค. 2561 นี้ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสหภาพยุโรป (GDPR EU / General Data Protection Regulation-EU) จะเริ่มมีผลบังคับใช้ หลังจากที่สหภาพยุโรปมีการประกาศล่วงหน้าเมื่อ 2 ปีก่อน นั่นหมายความว่าบริษัทประกันภัยที่มีลูกค้าที่อยู่ในประเทศสหภาพยุโรปจะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการป้องกันข้อมูลลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ให้รั่วไหล เพราะอาจถูกฟ้องร้องเรียกค่าความเสียหายเป็นเงินมหาศาล และสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงของบริษัทได้

ทั้งนี้ กฎหมายฉบับดังกล่าวจะคุ้มครองลูกค้าที่เป็นประเทศสมาชิกยุโรปทุกคนทั่วโลก หากบริษัทใดหรือธุรกิจใดทำข้อมูลลูกค้าชาวยุโรปรั่วไหล มีความเสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ ซึ่งไม่ทราบว่าจะเป็นจำนวนเงินเท่าไร

สำหรับธุรกิจประกันภัยจะมีการทำประกันภัยลูกค้าชาวยุโรปที่ทำงานอยู่ในไทยและพำนักอยู่ในไทยระยะยาว โดยเฉพาะประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ซึ่งแต่ละบริษัทจะต้องไปหาวิธีการป้องกัน หรือวางแผนการทำธุรกิจกับชาวยุโรปใหม่ เช่น การจัดทำระบบฐานข้อมูลของลูกค้ากลุ่มนี้แยกออกมาจากลูกค้าทั่วไป เพื่อป้องกันการใช้ข้อมูลผิดพลาดและต้องป้องกันการถูกโจรกรรม รวมถึงอาจจะต้องจำกัดบุคคลที่จะเข้าถึงข้อมูลลูกค้ากลุ่มนี้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย

แหล่งข่าวระบุว่า ในเนื้อหาของกฎหมายนอกจากจะคุ้มครองข้อมูลของชาวยุโรปรั่วไหลแล้ว ยังคุ้มครองด้วยว่าผู้ประกอบการที่จะนำข้อมูลไปใช้จะต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้เท่านั้น หากนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์จะถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ และยังให้สิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเรียกร้องให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของตนออกจากระบบได้เมื่อไม่มีความจำเป็นที่ผู้ประกอบการจะต้องเก็บข้อมูลนั้นไว้ หรือเจ้าของข้อมูลไม่ต้องการให้นำข้อมูลไปใช้อีกต่อไป

"ทุกธุรกิจที่ให้บริการหรือขายสินค้าให้กับผู้บริโภคชาวยุโรป หรือสังเกตพฤติกรรมของชาวยุโรปรวมถึงค้าขายกับชาวอียู จะต้องตกอยู่ภายใต้บังคับกฎหมายฉบับนี้ด้วย" แหล่งข่าวระบุ

แหล่งข่าวระบุว่า หากข้อมูลลูกค้าชาวยุโรปรั่วไหลหรือทำข้อมูลสูญหาย ถูกทำลาย หรือถูกโจรกรรม จะต้องแจ้งหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคที่มีการจัดตั้งขึ้นในแต่ละประเทศภายใน 72 ชั่วโมง แต่ด้วยธุรกิจประกันภัยไทยยังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีที่ให้มีความปลอดภัยด้านข้อมูล ทำให้เกิดความกังวล

ทั้งนี้ ในส่วนของธุรกิจประกันภัยได้แจ้งให้บริษัทสมาชิกได้ใช้ความระมัดระวังให้มากขึ้น เพราะถือว่าเป็นความเสี่ยงด้านไซเบอร์อย่างหนึ่ง และทำให้ต้นทุนในการจัดเก็บข้อมูลของบริษัทประกันภัยเพิ่มขึ้นด้วย ในส่วนของบริษัทขนาดใหญ่ไม่น่าเป็นห่วง แต่บริษัทขนาดกลางและเล็กอาจจะต้องทบทวนการทำธุรกิจเพื่อป้องกันความเสี่ยง