posttoday

เบี้ยชีวิตครึ่งปีแรกโต6.8%

01 สิงหาคม 2560

ธุรกิจประกันชีวิต เผย 6 เดือนแรก เบี้ยรวมโต 6.8% เร่งดึงเทคโนโลยีพัฒนาสินค้า บริการ เสนอขาย

ธุรกิจประกันชีวิต เผย 6 เดือนแรก เบี้ยรวมโต 6.8% เร่งดึงเทคโนโลยีพัฒนาสินค้า บริการ เสนอขาย

นางนุสรา บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า 6 เดือนแรกธุรกิจประกันชีวิตมีเบี้ยรับรวม 2.97 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แยกเป็นเบี้ยปีแรก 5 หมื่นล้านบาท ลดลง 12.1% เบี้ยจ่ายครั้งเดียว 3.25 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.4% เบี้ยต่ออายุ 2.14 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5%

ทั้งนี้ มาจากช่องทางการขาย ผ่านธนาคาร 1.42 แสนล้านบาท มีการขยายตัวสูงสุด 9.3% มีสัดส่วนเบี้ย 47.9% ของเบี้ยรับรวม รองลงมาเป็นช่องทางการขายผ่านตัวแทน 1.36 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% มีสัดส่วนเบี้ย 45.8% การขายผ่านช่องทางอื่นๆ 1.10 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2% มีสัดส่วนเบี้ย 3.7% ของเบี้ยรับรวม และจากช่องทางขายตรง 7,837 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% มีสัดส่วนเบี้ย 2.6% ของเบี้ยรับรวม

"การเติบโตของเบี้ยรับรวม 6 เดือนแรก ถือว่าดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ จึงมั่นใจว่าทั้งปีจะโตได้ 6% ตามความ คาดหมาย หรือเบี้ยรับรวม 6 แสนล้านบาท" นางนุสรา กล่าว

นางนุสรา กล่าวอีกว่า ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีเรื่องการใช้สิทธิลดหย่อน ภาษีมากระตุ้นกำลังซื้อ ประกันบำนาญที่ประชาชนเริ่มออมเงินรับสังคมผู้สูงอายุ และประกันควบการลงทุนที่สามารถจูงใจกลุ่มคนต้องการผลตอบแทนสูง โดยสินค้าที่ขายจะเป็นแบบความคุ้มครองระยะยาวเป็นหลัก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้บริษัทประกันชีวิตต้องใช้ความระมัดระวังในการออกสินค้า ไม่กล้ารับประกันผลตอบแทนสูงเหมือนในอดีต เพราะจะมีผลต่อกำไรของบริษัท รวมถึงต้องเตรียมตัวรับมือการบันทึกบัญชีรูปแบบใหม่ที่จะมีความเข้มงวดมากขึ้นในอีก 4-5 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ บริษัทประกันชีวิตยังต้องปรับปรุงเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจดิจิทัลเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพ โดยจะนำมาใช้ในการพัฒนาสินค้า บริการ และช่องทางการขายผ่านออนไลน์จับตลาดลูกค้ากลุ่มมิลเลนเนียล

"ดิจิทัลจะถูกนำมาใช้ในกระบวนการต่างๆ ทุกช่องทางการขายทั้งหมด ทั้งกระบวนการที่ลูกค้าซื้อ การชำระเบี้ยประกัน การพิจารณารับประกัน การส่งมอบกรมธรรม์ การจ่ายสินไหม และการสื่อสาร ไม่ใช่เฉพาะการขายออนไลน์เท่านั้น" นางนุสรา กล่าว

นางนุสรา กล่าวต่อว่า แม้จะมีการขายผ่านออนไลน์ แต่เชื่อมั่นว่าช่องทางการขายผ่านตัวแทน ผ่านธนาคาร ผ่านโทรศัพท์ หรืออื่นๆ ที่มีอยู่ จะยังมีความสำคัญ โดยในอนาคตแต่ละช่องทางจะเอื้ออำนวยซึ่งกันและกัน หรือเชื่อมกันกลายเป็นช่องทางขายที่หลากหลายหรือออมนิแชนแนล

"เทคโนโลยีก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ที่นำมาใช้ในธุรกิจประกันชีวิตในช่วงนี้ เช่น มีอุปกรณ์วัดการออกกำลังกายเพื่อดูพฤติกรรมการมีสุขภาพดี แลกกับคะแนน นำไปลดเบี้ยประกัน ซึ่งตอนนี้ไทยมีการนำมาใช้แล้ว ส่วนด้านอื่นๆ อยู่ระหว่างการพัฒนา อาทิ การออกกรมธรรม์ออนไลน์ การพิสูจน์ตัวตนลูกค้า" นางนุสรา กล่าว