posttoday

‘เอไอเอ’เจาะกลุ่มไฮเน็ตเวิร์ธ

03 มิถุนายน 2560

บริษัท เอไอเอ ประเทศไทย กวาดกำไรไตรมาสแรกปีนี้กว่า 5,000 ล้านบาท เดินหน้ารุกฐานลูกค้าสินทรัพย์สูงหรือไฮเน็ตเวิร์ธ

โดย...วารุณี อินวันนา

บริษัท เอไอเอ ประเทศไทย กวาดกำไรไตรมาสแรกปีนี้กว่า 5,000 ล้านบาท เดินหน้ารุกฐานลูกค้าสินทรัพย์สูงหรือไฮเน็ตเวิร์ธ ทุนประกันขั้นต่ำ 10 ล้านบาทถึง 200 ล้านบาท เน้นกลุ่มส่งมอบมรดกปลอดภาษี

ชุน ฮุง หลิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท เอไอเอ ประเทศไทย รายงานฐานะการเงินและผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2560 ว่า บริษัทมีสินทรัพย์รวม 7.69 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีสินทรัพย์รวม 7.53 แสนล้านบาท โดยมีเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย 3.58 หมื่นล้านบาท อัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย 440% ส่วนรายได้มีจำนวน 3.6 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มี 3.43 หมื่นล้านบาท ด้านรายจ่ายมีจำนวน 3 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 5,246 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,659 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

แหล่งข่าวจากบริษัท เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้ประกาศนโยบายรุกฐานลูกค้าสินทรัพย์สูง (AIA High Net Worth)  กับตัวแทนระดับชั้นนำ และทำการอบรมความรู้สินค้าที่จะนำออกมารองรับลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธ ชื่อ เอไอเอ เลกาซี่ เพรสทีจ (Legacy Prestige) คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี มีระยะเวลาในการชำระเบี้ย 5 ปี 10 ปี และ 15 ปี โดยมีทุนประกันขั้นต่ำ 10 ล้านบาท และสูงสุดไม่เกิน 200 ล้านบาท ควบคู่กับการขายสัญญาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุขภาพและกลุ่มโรคร้ายแรง โดยจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับลูกค้าในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ 

“การหันมาจับลูกค้ากลุ่มนี้ จะเน้นไปที่การมอบมรดก หรือการส่งต่อความมั่งคั่ง โดยไม่ต้องเสียภาษี การทำประกันชีวิตจะเป็นการเพิ่มมูลค่ากองทรัพย์สินที่ครอบครัวมีอยู่ เปรียบได้กับเป็นพินัยกรรมปลอดภาษี ปลอดเงื่อนไข รับเงินได้เร็ว มีสภาพคล่องที่ใช้ได้เลย โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการทางศาล ภายใน 15 วันเป็นอย่างน้อย” แหล่งข่าวระบุ

แหล่งข่าว เปิดเผยว่า ลูกค้าสินทรัพย์สูงกลุ่มนี้ มีครบทุกอย่าง ทั้งความรู้ ความสามารถ กำลังซื้อ และศักยภาพทางธุรกิจ ถ้าจะขายแนวคิดแบบเดิมๆ อย่างการคุ้มครองรายได้ การเกษียณอายุ ทุนการศึกษาของลูก ค่ารักษาพยาบาลเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ การบริหารความมั่งคั่ง ไม่ดึงดูดใจลูกค้ากลุ่มนี้ เพราะเป็นกลุ่มที่มีมากพอ 

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ให้ส่วนลดสุขภาพดีแก่ลูกค้ากลุ่มนี้ ทำให้เบี้ยประกันมีราคาถูกกว่าตลาด โดยแบบชำระเบี้ย 5 ปี สำหรับลูกค้าชายอายุ 35 ปี 45 ปี และ 55 ปี จะจ่ายเบี้ยถูกกว่าตลาด 4% แบบที่ชำระเบี้ย 10 ปี จะจ่ายเบี้ยถูกกว่าตลาด 11% และแบบที่ชำระเบี้ย 15 ปี คนอายุ 35-45 จะจ่ายเบี้ยถูกกว่าตลาด 6% ส่วนคนอายุ 55 ปี จะจ่ายเบี้ยถูกกว่าตลาด 5%

สำหรับ ปี 2560 บริษัท เอไอเอ ประเทศไทย ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพของช่องทางตัวแทน และเน้นโครงการ “เอไอเอ ไวทัลลิตี้” ซึ่งเป็นโครงการดูแลสุขภาพแนวใหม่ที่ส่งเสริมให้สมาชิกปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น โดยให้ส่วนลดเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นสำหรับลูกค้าที่มีสุขภาพดีสูงสุด 25% ที่เสนอขายคู่กับประกันโรคร้ายแรง ภายใต้แคมเปญ “AIA สู้ทุกระยะโรคร้าย” ให้ความคุ้มครองครบทุกระยะการรักษา และยังเน้นทำตลาดประกันชีวิตควบการลงทุน “เอไอเอ ยูนิตลิงค์” เพื่อจับกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่สนใจด้านการลงทุน สำหรับ 4 เดือนแรกของปี 2560 มีเบี้ยรับรวม 3.71 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% แยกเป็นเบี้ยปีแรก 5,633 ล้านบาทไม่เปลี่ยนแปลง เบี้ยต่ออายุ 2.94 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.15% เบี้ยชำระครั้งเดียว 2,067 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% โดยไตรมาส 2 ของปีนี้มีการปรับโครงสร้างผู้บริหารระดับสูงหลายตำแหน่ง และยังได้ดึงมืออาชีพจากบริษัทคู่แข่งเข้าไปร่วมงาน อาทิ นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต และ น.ส.ณาตยา สุขุม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด มีผล 1 เม.ย.ที่ผ่านมา