หุ้น13พ.ค.ปิดเช้าร่วง3.55จุดตามเอเชีย

ตลาดหุ้นปิดซื้อขายภาคเช้าวันที่ 13 พ.ค.ที่ระดับ 1,0827.72  จุด ลดลง 3.55 จุด หรือ -0.33% มูลค่าการซื้อขาย 13,772.97 ล้านบาท โดยดัชนีดีดขึ้นในแดนบวกได้ไม่นานก็ปรับตัวลดลงมาซื้อขายในแดนลบ จากจุดสูงสุดที่ระดับ  1,092.84 จุดและจุดต่ำ สุดที่ 1,078.52 จุด

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ ระบุว่า ตลาดหุ้นยังมีความกังวลเกี่ยวกับธนาคารกลางจีนใช้มาตรการควบคุมเงินเฟ้อครั้งล่าสุด ด้วยการประกาศขึ้นเพดานกันสำรองสภาพคล่องของแบงก์พาณิชย์อีก 0.5% รวมทั้งตลาดหุ้นไทยจะปิดทำการ 2 วันในวันทร์และวันอังคารหน้า ทำให้
ปริมาณการซื้อขายหุ้นในวันนี้น่าจะเริ่มเงียบเหงา โดยกรอบตลาดวันนี้น่าจะอยู่ที่ 1,075-1,095 จุด

กลยุทธ์วันนี้อาจจะเก็งกำไรในกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ โดยเฉพาะ SAT, STANLY หลังจากโตโยต้าสามารถเริ่มผลิตการประกอบรถยนต์ได้ในระดับปกติตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. ซึ่งเร็วว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงเลือกลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของค่าเงินบาทและแนวโน้มผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง อย่าง SVI และ CPF นอกจากนี้ยังแนะนำหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อย่าง BCP,TVO

 บล.ฟิลลิป ระบุว่า ตลาดหุ้นอ่อนตัวลงจากแรงกดดันของการดิ่งลงอย่างหนักของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาน้ำมันดิบที่ตลาดไนเม็กซ์ที่รูดลงกว่า 5.46% จากสต็อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และตัวเลขผลผลิตทางอุตสาหกรรมของจีนที่เติบโตต่ำกว่าคาด ประกอบกับการปรับขึ้นของดัชนีหุ้นไทยที่ค่อนข้างสูงกว่าตลาดเพื่อนบ้าน โดยในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องรวม 49.63 จุด หรือ 4.7% และเป็นช่วงใกล้วันหยุดยาวในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ระหว่างวันที่ 14-17 พ.ค. จึงมีความเสี่ยงจะเผชิญแรงขายทำกำไรมากขึ้น

 กลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้นยังให้เน้นเก็งกำไรหุ้นผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 54 รวมถึงหุ้นที่รับประโยชน์จากกิจกรรมการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นต่อไป โดยมองแนวต้าน  1,107-1,113 จุดและ แนวรับ  1,095-1,090 จุด
 
 5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
 
BANPUมูลค่าการซื้อขาย 877.62 ล้านบาท ปิดที่ 736  บาท ลดลง 8 บาท หรือ -1.08%   
PTT มูลค่าการซื้อขาย 744.64 ล้านบาท ปิดที่  360 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง  
CPF มูลค่าการซื้อขาย721.95 ล้านบาท ปิดที่  32 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.79% 
ESSO มูลค่าการซื้อขาย 505.68 ล้านบาท ปิดที่ 12.90 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ -1.53% 
BBL มูลค่าการซื้อขาย 482.20  ล้านบาท ปิดที่ 163 บาท ลดลง 1 บาท หรือ -0.61%