posttoday

THAIกำไรวูบแรง 94%

13 พฤษภาคม 2554

บริษัท การบินไทย (THAI)มีกำไรสุทธิ เพียง 618  ล้านบาท ทรุดลง 94% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนกำไรสุทธิ 10,572 ล้านบาท     นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง(ประเทศไทย) แนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้น THAI คาดปัจจัยกดดันราคาหุ้นในระยะสั้นเบาบางลง ทั้งเรื่องราคาน้ำมันและค่าเงินยูโรแข็งค่า โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 46 บาท  ทั้งนี้กำไรที่ปรับตัวลดลง 80% จากไตรมาส4 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผลกระทบของราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น, ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลยูโร และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในตลาดสายการบิน  บริษัทการบินไทยรายงานสาเหตุทื่ทำให้กำไรลดลงมาก เกิดจาก ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 3,358 ล้านบาท จากค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นกว่า 7% จากไตรมาสก่อน,  ต้นทุนน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นกว่า 22.5%  เป็น 1.75 หมื่นล้านบาท ขณะที่รายได้ค่าโดยสาร (passenger yield) เพิ่มขึ้นแค่ 8%  รวมถึงต้องหั่นราคาสู้ในบางเส้นทางที่เผชิญการแข่งขันรุนแรง, และ  จำนวนผู้โดยสาร  ลดลง 3.5% จากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ในตลาดสายการบิน รวมถึงเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ และความขัดแย้งทางการเมืองในหลายประเทศ ทำให

บริษัท การบินไทย (THAI)มีกำไรสุทธิ เพียง 618  ล้านบาท ทรุดลง 94% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนกำไรสุทธิ 10,572 ล้านบาท   
 
 
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง(ประเทศไทย) แนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้น THAI คาดปัจจัยกดดันราคาหุ้นในระยะสั้นเบาบางลง ทั้งเรื่องราคาน้ำมันและค่าเงินยูโรแข็งค่า โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 46 บาท
 
ทั้งนี้กำไรที่ปรับตัวลดลง 80% จากไตรมาส4 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผลกระทบของราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น, ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลยูโร และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในตลาดสายการบิน
 
บริษัทการบินไทยรายงานสาเหตุทื่ทำให้กำไรลดลงมาก เกิดจาก ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 3,358 ล้านบาท จากค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นกว่า 7% จากไตรมาสก่อน,  ต้นทุนน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นกว่า 22.5%  เป็น 1.75 หมื่นล้านบาท
 
ขณะที่รายได้ค่าโดยสาร (passenger yield) เพิ่มขึ้นแค่ 8%  รวมถึงต้องหั่นราคาสู้ในบางเส้นทางที่เผชิญการแข่งขันรุนแรง, และ  จำนวนผู้โดยสาร  ลดลง 3.5% จากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ในตลาดสายการบิน รวมถึงเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ และความขัดแย้งทางการเมืองในหลายประเทศ ทำให้ปริมาณผู้โดยสารในเส้นทางภุมิภาคลดลง
 
อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรทราบด้วยว่าตามมาตรการบัญชีใหม่ บริษัทได้รับผลกระทบจากการบันทึกภาระผูกพันผลประโยชน์พนักงานโดยวิธีปรับย้อนหลัง ทำให้กำไรสะสมในงบการเงิน ณ วันที่ 1 ม.ค. 2554 ลดลง 6,527 ล้านบาท และมีผลทำให้กำไรสุทธิไตรมาส 1 ลดลง 153 ล้านบาท (คิดเป็น 0.07 บาทต่อหุ้น)

นักวิเคราะห์บล.กิมเอ็งคาดว่า กำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 2จะปรับตัวลดลงมากจากไตรมาสแรก ตามผลของฤดูกาล แต่น่าจะเห็นการฟื้นตัวที่โดดเด่นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 3,175 ล้านบาท เพราะ 1) ไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองเหมือนในปีก่อน ซึ่งทำให้ อัตราผู้โดยสาร ลดลงเหลือเพียง 64.5% 2) ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ดิ่งลงกว่า 17% จากระดับสูงสุดที่ 115 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลมาที่ระดับต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในปัจจุบัน ช่วยลดภาระค่าน้ำมันเครื่องบินซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 40 – 50% ของต้นทุนดำเนินงานได้ประมาณครึ่งหนึ่ง เพราะบริษัทมีการทำ ประกันความเสี่ยง น้ำมันไว้ราว 50% ของปริมาณการใช้
 
ส่วนการปรับลดค่าตั๋วโดยสารตามค่าธรรมเนียมน้ำมันคาดจะมีความล่าช้า เช่นเดียวกับตอนปรับขึ้น และ  ค่าเงินยูโรที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อนบนความกังวลต่อการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศในกลุ่มยูโรโซนจะช่วยหนุน ให้บริษัทมีการบันทึกกำไรจากอัตรแลกเปลี่ยนในไตรมาสนี้ด้วย (บริษัทมีหนี้สกุลยูโรที่ยังไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงราว 78% ของพอร์ต)
 
"กิมเอ็งยังคงประมาณการกำไรปกติปีนี้ที่ 5,711 ล้านบาท หรือลดลง 2.3% จากปีก่อน ไว้ก่อน เพราะยังมีความกังวลต่อการฟื้นตัวของเส้นทางบินไป-กลับญี่ปุ่น (สัดส่วน 9% ของรายได้รวม) ที่อาจล่าช้าจากผลกระทบของเหตุการณ์แผ่นดินไหว รวมถึงราคาน้ำมันที่ยังมีความผันผวนมาก แต่ในระยะยาวเรามีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางการเติบโตของบริษัท จากการปรับปรุงประสิทธิภาพฝูงบิน ซึ่งจะทำให้ THAI สามารถเพิ่มค่าตั๋วโดยสาร และช่วยลดการบริโภคน้ำมันต่อหน่วยลงได้ราว 15%-20% รวมถึงการตั้งสายการบินต้นทุนต่ำ Thai Tiger เพื่อมาเบียดสู้ในตลาดล่าง"