posttoday

บลจ.กสิกรไทยเปิดตัวกองทุนลุยหุ้นอินเดีย

09 พฤษภาคม 2554

บลจ.กสิกรไทย ชี้เศรษฐกิจอินเดียแกร่งหนุนหุ้นอินเดียผงาด ส่งกองทุนใหม่ขาย 12-31 พ.ค.นี้ ชูจ่ายเงินปันผลสูงสุดปีละ 4 ครั้ง

บลจ.กสิกรไทย ชี้เศรษฐกิจอินเดียแกร่งหนุนหุ้นอินเดียผงาด ส่งกองทุนใหม่ขาย 12-31 พ.ค.นี้ ชูจ่ายเงินปันผลสูงสุดปีละ 4 ครั้ง

นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า บริษัทจะเสนอขายกองทุนเปิดเค อินเดีย หุ้นทุน (K India Equity Fund : K-INDIA) เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงจากการลงทุนในต่างประเทศและคาดหวังโอกาสรับผลตอบแทนสูงจากการลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูงจากพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและขยายตัวอย่างต่อเนื่องของประเทศอินเดีย

กองทุน K-INDIA จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน UTI India Fund – 1986 share ภายใต้การบริหารของ UTI International บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่มีทีมผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์ซึ่งประจำอยู่ในอินเดียโดยตรง มีความได้เปรียบในด้านข้อมูลและความเข้าใจเชิงลึกในสภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยการลงทุนต่างๆ ในประเทศอินเดีย

นายพัชร กล่าวว่า ตลาดหุ้นอินเดียมีสัดส่วนราคาต่อกำไร (พีอี) ที่น่าสนใจและมีผลประกอบการที่เติบโตเร็ว โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นอินเดียในปีนี้และปีหน้าจะเติบโตสูงราวๆ 15-20%    ส่วนปัจจัยที่มองว่าเป็นความเสี่ยงก่อนหน้านี้อย่างความกังวลจากเงินไหลออกก็เริ่มกลับมาอยู่ในจุดที่วางใจได้ เห็นได้จากเริ่มมีเงินลงทุนจากทั่วโลกไหลกลับเข้ามาในอินเดียและประเทศตลาดเกิดใหม่มากขึ้น

นอกจากนี้อัตราเงินเฟ้อในอินเดียซึ่งเคยเป็นประเด็นที่กังวล เพราะอยู่ในระดับค่อนข้างสูงก็ได้ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับเมื่อช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาด้วยมาตรการแก้ไขอย่างจริงจังจากรัฐบาลอินเดีย ขณะเดียวกันราคาน้ำมันก็ปรับลดลงมาซึ่งน่าจะช่วยลดแรงกดดันเรื่องอัตราเงินเฟ้อในอินเดียได้อีกทางหนึ่ง

สำหรับกองทุน K-INDIA มีขนาด 1,500 ล้านบาท มีนโยบายปันผลไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี และมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท สำหรับผู้ที่ลงทุนในช่วงเสนอขายครั้งแรก ตั้งแต่ 12-31 พ.ค.2554 ตั้งแต่ 1,000,000 – 9,999,999 บาท เงินลงทุนทุกๆ 1 ล้านบาทจะได้รับเงินสด (cash back ) 1,200 บาท และสำหรับผู้ที่ลงทุน 10 ล้านบาทขึ้นไปในช่วงเวลาเดียวกัน เงินลงทุนทุกๆ 1 ล้านบาทจะได้รับ cash back 1,500 บาท ทั้งนี้ สูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท