ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 161.29 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใส

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 161.29 จุด หรือ 1.39% ปิดที่ 11,774.59 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 16.84 จุด หรือ 1.34% ปิดที่ 1,273.72 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 19.23 จุด หรือ 0.73% ปิดที่ 2,636.05 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 4.3 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 1

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่สะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้วร่วงลง 16,000 ราย สู่ระดับ 385,000 ราย ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ร่วงลง 7,000 ราย แตะระดับ 386,250 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐลดลงเพียง 0.1% ในเดือนก.พ. ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปเดือนก.พ.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ และยังต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2.0% ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้ถูกคุกคามจากภาวะเงินเฟ้อ

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ในญี่ปุ่น หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นและหน่วยงานด้านนิวเคลียร์ทั่วโลกพยายามคลี่คลายปัญหาดังกล่าว ขณะที่นักวิเคราะห์หลายคน รวมถึง เจมส์ เอฟ.สมิธ หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัทพาร์เซค ไฟแนนเชียลคาดว่า วิกฤตการณ์ในญี่ปุ่นไม่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เนื่องจากญี่ปุ่นไม่ใช่แรงขับเคลื่อนสำคัญในการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

หุ้นเฟดเอ็กซ์ คอร์ป ปิดพุ่ง 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้รายไตรมาสเพิ่มขึ้น 11% เนื่องจากอัตราการขนส่งสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่หุ้นยูไนเต็ด พาร์เซล เซอร์วิส ซึ่งเป็นคู่แข่งรายสำคัญของเฟดเอ็กซ์ ปิดบวก 1.7% ทั้งนี้ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของเฟดเอ็กซ์ยังช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์กลุ่มการขนส่งพุ่งขึ้น 1.4% ด้วย

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมัน NYMEX พุ่งขึ้น 3.44 ดอลลาร์ แตะที่ 101.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในลิเบียและตะวันออกกลาง