posttoday

ดาหน้าลดเป้ากำไร-ดัชนี

04 มีนาคม 2554

ปี’53บจ.ดีเกินไปต้นทุนพุ่งบล.กสิกรคาดควบรวมฮอต

ปี’53บจ.ดีเกินไปต้นทุนพุ่งบล.กสิกรคาดควบรวมฮอต

กสิกรไทยเล็งหั่นเป้าหมายกำไร บจ.และดัชนี หลังน้ำมันพุ่ง ขณะที่ไทยพาณิชย์ขอยื้อรอผลกำไรไตรมาสแรกออกก่อน

นายสุชีล นารูลา บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย กล่าวว่า 12 สัปดาห์นี้บริษัทจะปรับลดเป้าหมายการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปีนี้ลง รวมถึงเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยด้วย จากเดิมประเมินไว้ว่าดัชนีจะอยู่ที่ 1,200 จุด และกำไรโต 17-18% ภายหลังทิศทางราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และน่าจะมากกว่าค่าเฉลี่ยทั้งปี ที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ 95 เหรียญสหรัฐ

ผลของราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นกระทบต่อกำไรของ บจ. แต่เชื่อว่าไม่สูงมาก เพราะขณะเดียวกันส่งผลดีต่อผลกำไรของกลุ่มพลังงานซึ่งมีสัดส่วนกำไรของ บจ.โดยรวมสูง ทำให้กำไรของ บจ.ได้รับผลกระทบไม่มาก และเป้าหมายดัชนีใหม่คงไม่หลุดต่ำกว่า 1,000 จุด

“ครึ่งแรกของปีนี้หุ้นคงแกว่งตัวในกรอบ 900-1,000 จุด แนะนำให้ถือเงินสดเพิ่มขึ้นเป็น 50% แต่ครึ่งหลังของปีหุ้นน่าจะดีขึ้น ดอกเบี้ยนโยบายคงปรับเพิ่มขึ้นจุดสูงสุดแล้ว รวมถึงความรุนแรงในตะวันออกกลางคงไม่ยืดเยื้อ ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ดังนั้นแรงกดดันเรื่องเงินเฟ้อและดอกเบี้ยคงบรรเทาลง” นายสุชีล กล่าว

นายวรวัจน์ สุวคนธ์ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ผลจากราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำให้โอกาสในการเกิดการควบรวมหรือซื้อกิจการมากกว่าในช่วงราคาหุ้นลง

นอกจากนี้ แรงกดดันของการแข่งขันเสรีทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว เช่น การควบรวมเพื่อสร้างความแข่งขัน หรืออาศัยขนาดเพื่อประหยัดต้นทุน โดยกลุ่มธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิตน่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจต้นๆ ที่ต้องเกิดการควบรวมกันขึ้น เพราะมีผู้เล่นรายเล็กจำนวนมาก

น.ส.ณัฐรินทร์ ตาลทอง ประธานกรรมการบริหาร บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 1,350 ล้านบาท โต 29% จากปีที่ผ่านมา และตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะมีส่วนแบ่งการตลาด 4.7% ขึ้นเป็นโบรกเกอร์อันดับ 5 และเชื่อว่าจะรักษาค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายเฉลี่ย 0.2% ซึ่งอยู่ในช่วงสูงสุดของอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เฉลี่ยระหว่าง 0.15-0.20% คาดว่าจะปล่อยสินเชื่อเพื่อการซื้อหุ้น (มาร์จินโลน) 1,600 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 1,450ล้านบาท

นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนลูกค้าบุคคล บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงเป้าหมายกำไร บจ.ปีนี้โต 15% และคงเป้าหมายดัชนี 1,200 จุด จะมีการทบทวนอีกครั้งหลังผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ออกมาก่อน โดยผลของราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของ บจ. เพราะกลุ่มพลังงานได้ประโยชน์และมีสัดส่วน 30% ของกำไร บจ.ทั้งหมด

นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุลผู้จัการฝ่ายวิจัย เศรษฐกิจและกลยุทธ์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า กำไรของ บจ.ในปี 2554 ที่บริษัทเคยคาดว่าจะโต 12% น่าจะลงมาเหลือ 10% หลังจากกำไรสุทธิปี 2553 โตสูงกว่า 30% มากกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 25% ขณะที่ผลกระทบจากปัจจัยอื่นน่าจะน้อย เช่น เหตุการณ์ในตะวันออกกลางและราคาน้ำมันสูงไม่น่าจะยืดยาว รวมถึงดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น

นายธวัชชัย อัศวพรไชยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ยังคงเป้าหมายกำไร บจ.ปีนี้จะโต 20% และเป้าหมายดัชนี 1,200 จุด เพราะระดับราคาน้ำมันที่สูงและกดดันเงินเฟ้อเป็นเพียงระยะสั้น