posttoday

CHOW ฐานทุนแน่นแตกธุรกิจดันกำไรโตต่อ มั่นใจ 2565 ปีทองสร้างรายได้โตก้าวกระโดด

10 มิถุนายน 2565

CHOW รับปี 2565 เป็นปีทองทางธุรกิจ หลังไตรมาสแรกฟันกำไรขายโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่นกว่า 1,400 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 65.17 ล้านบาท มาเป็นกำไรกว่า 1,200 ล้านบาท

นายปรมัตถ์ จุฬวนิช ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน (CFO) บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศ และธุรกิจพลังงานทดแทน ประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ ผ่านบริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อย เปิดเผย ในโอกาสนำเสนอข้อมูลในงาน SET Opportunity Day บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุนประจำไตรมาสที่ 1/2565 ว่า ในไตรมาสที่ 1/2565 บริษัทฯ มีผลประกอบการพลิกจากขาดทุน 65.17 ล้านบาท ในปี 2564 มามีกำไรสุทธิ 1,205.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,270.52 ล้านบาท หรือร้อยละ 1,950 โดยมาจากธุรกิจเหล็กเริ่มเปิดเดินสายการผลิตครั้งใหม่ และรับรู้กำไรจากการขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นอีก 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 56.9 เมกะวัตต์ เป็นจำนวนเงินรวม 1,423.46 ล้านบาท ตามแผนธุรกิจพลังงาน โดย บริษัทฯ ได้ชำระคืนหนี้สินที่ใช้ในการพัฒนาโรงไฟฟ้าให้กับธนาคารเป็นจำนวนกว่า 6,401.74 ล้านบาท ส่งผลให้หนี้สินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนทุนของบริษัทฯ แข็งแกร่งมากขึ้น โดยอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/E) ลดลงจาก 10.22 เท่า มาอยู่ที่ระดับ 1.03 เท่า และส่วนทุนเพิ่มขึ้นจาก 815 ล้านบาท มาเป็นกว่า 2,060 ล้านบาท

"แผนธุรกิจพลังงานที่บริษัทฯ ได้วางไว้เริ่มต้นจากการพัฒนาโรงไฟฟ้า ไปจนถึงการขายไฟ และขายโครงการต่อให้กับกองทุนพลังงานในประเทศญี่ปุ่นเพื่อรับรู้กำไรจากการลงทุนทันที โดยไม่ต้องรอรายได้จากการขายไฟจนครบสัญญา ทำให้ CHOW รับรู้รายได้และกำไรจากการขายโรงไฟฟ้าในอัตราที่น่าพอใจ และพลิกฐานะการเงินของบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งขึ้นได้ทันที สามารถขยายธุรกิจ ทั้งธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่ได้อย่างคล่องตัว โดยหลังจากนี้ CHOW จะเริ่มลุยขยายธุรกิจอย่างเต็มตัว เพื่อเร่งขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ ทั้งธุรกิจเหล็ก ธุรกิจพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างจากเดิมเพื่อต่อยอดทางธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน" นายปรมัตถ์ กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน CHOW กล่าวต่อถึงธุรกิจเหล็กซึ่งเป็นธุรกิจเดิมของบริษัทฯ ว่า หลังจากนี้พร้อมเดินหน้าผลิตสินค้าป้อนให้กับลูกค้าที่ได้ลงนามในสัญญารับจ้างผลิตเหล็กแท่งยาว (Steel Billets) จำนวน 400,000 ตันต่อปี พร้อมทั้งเตรียมผลิตสินค้าแบบใหม่ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น หลังจากการปรับปรุงโรงงานทำให้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น ผลิตเหล็กได้หลากหลายประเภท ในเกรดที่มีคุณภาพสูง และต้นทุนลดลง นอกจากนั้น ยังได้เพิ่มหน่วยธุรกิจใหม่เป็นกลุ่มเทรดดิ้ง หรือซื้อมาขายไปเพิ่มขึ้นในกลุ่มวัตถุดิบ และเหล็กต่าง ๆ เนื่องจากมีบุคลากรที่มีความสามารถ และมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้า โดยในไตรมาสที่ 1/2565 ที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจเทรดดิ้งเริ่มมีรายได้ 133.4 ล้านบาท และมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีในอนาคต

ในขณะที่ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในปีนี้ CHOW ได้หันมาเพิ่มความสำคัญให้กับตลาดในประเทศทั้งตลาดรายย่อย และรายใหญ่เพิ่มขึ้น โดยตลาดรายย่อยได้ขยายธุรกิจผ่านบริษัท เชาว์ แอนด์ ฮาโก้ โซลาร์ จำกัด ในขนาดติดตั้งไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ ปัจจุบันได้เปิดช่องทางขายผ่านกลุ่มโมเดิร์นเทรด ส่วนตลาดรายใหญ่ที่ทำตลาดผ่าน บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันมีโครงการระหว่างพัฒนาในมือ 47 เมกะวัตต์ และมีเป้าหมายจะเพิ่มขึ้นเป็น 70 เมกะวัตต์ภายในปีนี้ สำหรับตลาดต่างประเทศ บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลียที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและระหว่างการพัฒนารวมกันประมาณ 275เมกะวัตต์

นายปรมัตถ์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2565 ซึ่ง ประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565 มีมติอนุมัติให้ลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดคริปโตเคอร์เรนซี่ (Cryptocurrency Mining) ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่ทางบริษัทฯ ได้ศึกษาข้อมูลมาอย่างถี่ถ้วน และเล็งเห็นว่าเป็นธุรกิจการลงทุนที่มีศักยภาพและให้ผลตอบแทนที่ดีในอนาคต โดยกำหนดมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นไม่เกิน 150 ล้านบาท เพื่อใช้ในการจัดซื้อ เครื่องขุดคริปโตเคอร์เรนซี่ ซึ่งจะเริ่มทยอยลงทุนภายในไตร มาสที่ 2 ปี 2565 นั้น ถือเป็นธุรกิจอนาคตที่บริษัทฯ คาดหวังจะสร้างโอกาสให้บุคลากรได้เรียนรู้ธุรกิจใหม่ๆ เพื่อหาช่องทางในการสร้างรายได้ที่มั่นคงในอนาคต โดยปัจจุบันบริษัทได้ทยอยลงทุนติดตั้งเครื่องขุดและเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่นี้แล้ว โดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง และคืนทุนได้ภายใน 2 ปีเท่านั้น

" ฐานทุนที่แข็งแกร่งขึ้นทำให้ CHOW ขยายธุรกิจได้อย่างคล่องตัว ทั้งจากกระแสเงินสดของบริษัทฯ เอง และการสนับสนุนด้านสินเชื่อจากธนาคารชั้นนำ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรที่มีความสามารถ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และซับพลายเชนที่เข้มแข็ง ซึ่งความพร้อมเหล่านี้จะทำให้ CHOW สามารถขยายธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยสร้างรายได้และกำไรให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และสำหรับปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะทำรายได้ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุกหน่วยธุรกิจ โดย 6 เดือนแรกจะชนะยอดขายของปีที่แล้วทั้งปี”