IMH สร้างแพลตฟอร์มโรงพยาบาลในโลกเสมือนจริง - ลุกตลาดคริปโทฯ

ดร. สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) หรือ IMH เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กลุ่ม IMH ประกอบด้วย (1) โรงพยาบาล อินเตอร์เมดฯ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านอาชีวเวชศาสตร์ ให้บริการตรวจสุขภาพแบบครบวงจร (2) โรงพยาบาล ประชาพัฒน์ ซึ่งเป็น รพ.ทั่วไปขนาดใหญ่ ให้บริการรักษาโรค ทั้งคนไข้ บัตรทอง ประกันสังคม และเงินสด และ (3) บริษัท แอคคิวฟาส แล็บ เซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งรับผิดชอบ งานด้านห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ (Lab) โดยปัจจุบัน กลุ่ม IMH มีฐานกลุ่มลูกค้ารวมกัน ประมาณ 1.5 ล้านคน ส่งผลให้สามารถขยายฐานและต่อยอดลูกค้าโลกดิจิทัล ได้อีกหลายเท่าตัว ต่อประเด็นดังกล่าว เป็นสาเหตุให้ ล่าสุด กลุ่ม IMH ได้จับมือกับพันธมิตร บริษัท จาก้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Jakaverse) เตรียมขยายธุรกิจเข้าสู่โลกเสมือนจริง ภายใต้การร่วมมือผ่าน "IMH-verse" ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มโรงพยาบาล IMH ในโลกเสมือนจริง เจาะกลุ่มลูกค้าโลกดิจิทัลซึ่งเป็นตลาดไร้พรมแดน

ดร.สิทธิวัตน์ กล่าวว่า จากแผนขยายสู่ธุรกิจเข้าสู่โลกเสมือนจริง คาดว่าจะเริ่มมีความชัดเจนใน Q2/2565 ซึ่งทาง IMH จะเริ่มวางตลาด ผลิตภัณฑ์และบริการ ด้าน Medical & Wellness อาทิ บริการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน , บริการตรวจสุขภาพประจำปี, ตรวจ RT-PCR , ฉีดวัคซีนประเภทต่างๆ ให้กับลูกค้าโลกดิจิทัล ผ่านทาง "IMH-verse" แพลตฟอร์มโรงพยาบาลในโลกเสมือนจริง ซึ่งลูกค้าโลกดิจิทัล สามารถเข้ามาเลือกซื้อ และ ปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์แบบเสมือนจริง ซึ่งจะช่วยเพิ่ม traffic ให้ลูกค้าจำนวนมากสามารถเข้าถึงโรงพยาบาลได้พร้อมๆกัน พร้อมทั้งยังสามารถลดความแออัดในการมาโรงพยาบาลได้เป็นอย่างดี

" IMH-verse" นอกจากจะเป็นผู้นำทางการแพทย์ด้าน Medical &Wellness ในโลกเสมือนจริง ที่เจาะกลุ่มลูกค้าโลกดิจิทัล ทำให้สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ /บริการทางการแพทย์ ได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเข้า access จากที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมาที่โรงพยาบาล "IMH-verse" ยังเปิดทางให้สามารถชำระค่าบริการด้วยเงินสกุลดิจิทัล (Digital Coin) ต่างๆ ในอนาคต ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการแพทย์ตามแนว cashless society โดยคาดว่าฐานลูกค้าของ กลุ่ม IMH จะขยายเพิ่มกลุ่มลูกค้าโลกดิจิทัล โตก้าวกระโดด แตะ 3 ล้านคน ภายในปี 2566

ดร.สิทธิวัตน์ กล่าวว่า จากการสบช่องทางโอกาสในการต่อยอดและขยายธุรกิจ ส่งผลให้ทางกลุ่ม IMH คาดว่า จะมีอัตราการเติบโตของรายได้รวมในปี2565 เกินระดับ 1,200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการปรับตัวแตะระดับสูงสุด(นิวไฮ) ที่วางไว้ นอกจากนี้ยังสามารถบริหารต้นทุนรวมให้ต่ำลงได้มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา จากการ synergy ระหว่าง บริษัทในกลุ่ม IMH ซึ่งยังไม่รวมดีลขยายธุรกิจโรงพยาบาล ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน ช่วงไตรมาส1/2565 นี้อย่างแน่นอน เนื่องจากปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจา ร่วมถึงเร่งดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลโลกเสมือนจริง บนแพลตฟอร์ม ภายใต้“IMH-verse” อีกด้วย นอกจากนี้ กลุ่ม IMH ยังมีกลยุทธ์การขยายธุรกิจ บนแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform) และพร้อมสร้าง synergy ระหว่าง กลุ่ม IMH และ พันธมิตรต่างๆ ตั้งแต่ไตรมาส2/2565 เป็นต้นไป