posttoday

“บลูบิค” เสริมทัพบุคลากรไอทีครั้งใหญ่หลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

19 ตุลาคม 2564

“บลูบิค” เสริมทัพบุคลากรไอทีครั้งใหญ่หลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ รับแผนขยายธุรกิจและเทรนด์ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันเติบโตไม่หยุด

นายปกรณ์ เจียมสกุลทิพย์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ การจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยี และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท ออร์บิท ดิจิทัล จำกัด (ORBIT Digital) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบลูบิค และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ในการผลักดันให้ OR เป็นผู้นำด้านดิจิทัลในอุตสาหกรรมค้าปลีก เปิดเผยว่า หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ บริษัทฯ ได้รุกเสริมทีมงานบุคลากรด้านไอทีครั้งใหญ่ เพื่อรองรับแผนงานขยายธุรกิจด้านคอนซัลท์ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน เนื่องจากกระแสดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน ทำให้องค์กรต้องเร่งยกระดับศักยภาพด้านเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ส่งผลให้บลูบิค ในฐานะผู้ช่วยการทรานส์ฟอร์มธุรกิจ ต้องเร่งขยายทีมงาน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มากขึ้น พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายการก้าวเป็นผู้นำบริษัทที่ปรึกษาด้านดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันในระดับภูมิภาค

ดังนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว บลูบิค จึงต้องมีทีมบริหารและเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาบริการที่สามารถแข่งขันได้ในทุกตลาดได้อย่างทันการณ์และทันสมัยที่สุด ภารกิจสำคัญของบริษัทจึงเป็นการขยายทีมงานที่ดูแลด้านการพัฒนาระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี หรือ Digital Excellence and Delivery (DX) เพื่อยกระดับการส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลในด้านต่างๆ ให้ลูกค้า

"พนักงานที่มีคุณภาพและความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยี ถือเป็นหัวใจหลักขับเคลื่อนการทรานส์ฟอร์มธุรกิจ บลูบิค จึงต้องการขยายทีมไอทีเพื่อเข้าไปช่วยลูกค้าองค์กร เพื่อให้การทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง ช่วยลดต้นทุนการสรรหาบุคลากรใหม่ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างการเติบโตในระยะยาว" นายปกรณ์ กล่าว

นายปกรณ์ กล่าวเสริมว่า โดยปกติแล้ว ภารกิจด้านดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน จะเป็นโครงการขนาดใหญ่มาก ซึ่งกระบวนการนี้จะเข้าไปแตะทุกภาคส่วนภายในองค์กร บลูบิคในฐานะที่ปรึกษาจึงต้องช่วยธุรกิจเตรียมความพร้อมในด้านเทคโนโลยี โดยทีม DX จะเข้าไปมีบทบาทเข้มข้นในส่วนสำคัญต่างๆ เกี่ยวกับการพัฒนาขีดความสามารถของฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีโดยตรง เช่น การยกระดับแผนกงานด้านไอทีของธุรกิจต่างๆ ที่เคยเป็นหน่วยงานเชิงรับ ให้เริ่มเป็นส่วนงานที่สร้างรายได้หรือสามารถสร้างและดูแลระบบดิจิทัลให้กับฝ่ายธุรกิจขององค์กรได้ หรือเข้าไปช่วยลดเวลาในการออกแบบและพัฒนาระบบขนาดใหญ่ เป็นต้น

ในปัจจุบัน บลูบิคมีพนักงานกว่า 150 คน และให้บริการลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ครอบคลุมธุรกิจหลากหลายภาคอุตสาหกรรม เช่น ธนาคาร ประกันภัย ค้าปลีก โทรคมนาคม เป็นต้น โดยบลูบิคมีอัตราการเติบโตแข็งแกร่ง ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีรายได้จากการขายและบริการ 126.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิ 30.06 ล้านบาท คิดเป็นอัตราทำกำไรสุทธิที่ 23.67%

ทั้งนี้ บลูบิคมุ่งเน้นการเป็นที่ปรึกษาด้านดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันแบบครบวงจร บริษัทจึงเปิดโอกาสให้กับบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งนั้น ๆ ได้แก่ สายงานด้านการพัฒนาระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี (Digital Excellence and Delivery: DX) เช่น Software Engineer, Business Analyst, UX/UI Designer, Technical Lead, Software Tester, IT Project Manager, System Analyst, Solution Architect, Infrastructure Engineer และ สายงานด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง (Advanced Insights) เช่น Data Scientist, Data Engineer, Cloud Architect, Data Architect, Data Governance, Data Consultant

นายปกรณ์ เสริมว่า สำหรับตำแหน่งงานที่เปิดรับครั้งนี้มีจำนวนกว่า 100 อัตรา จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานทั้งในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับบริษัทบลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ออร์บิท ดิจิทัล จำกัด และบริษัท แอดเดนด้า จำกัด ซึ่งทำหน้าที่จัดหาและบริหารบุคลากรชั่วคราวด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT staff augmentation) เพื่อเข้าไปช่วยลูกค้าองค์กรในการยกระดับศักยภาพด้านเทคโนโลยี โดยให้บริการส่งบุคลากรไปปฏิบัติงานประจำ ณ ที่ตั้งของลูกค้า หรือสถานที่ที่ลูกค้ากำหนดตลอดระยะเวลาจ้างงาน ซึ่งบริการดังกล่าวนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มความคล่องตัว มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย โดยเฉพาะการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันเข้าไปขับเคลื่อนแผนงานอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง

จุดเด่นของบลูบิคคือมาตรฐานการทำงานที่เทียบเท่ากับบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก มุ่งสร้างและส่งมอบงานที่ดีที่สุดให้ลูกค้าองค์กร ขณะเดียวกันยังมีวัฒนธรรมการทำงานแบบสตาร์ทอัพที่ยืดหยุ่นและเปิดกว้างให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ ด้วยรูปแบบโครงสร้างองค์กรแบบราบ หรือ Flat organization จึงทำให้พนักงานได้เรียนรู้และพัฒนาฝีมืออย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความก้าวหน้าในสายงานและการเลื่อนขั้นจึงขึ้นอยู่กับความสามารถของพนักงานมากกว่าความอาวุโส

นอกจากนี้ บลูบิค ยังมีแผนลงทุนในการสร้างศูนย์การพัฒนาทักษะ (Learning Academy Center) ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเสร็จเรียบร้อยภายในไตรมาส 2 ปี 2565 สำหรับให้บุคลากรได้เรียนรู้เนื้อหาขั้นสูงและทดลองปฏิบัติจริง เช่น Solution architect, Cloud Technology, Artificial Intelligence และ Blockchain เป็นต้น เพื่อสร้างทักษะและประสบการณ์ของบุคลากร ซึ่งสามารถนำไปช่วยพัฒนาบริการให้แก่ลูกค้าในการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน