หุ้นไทยปิดภาคเช้าพุ่ง20จุด ขานรับปัจจัยบวกในต่างประเทศ
ตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยบวกปิดภาคเช้าเพิ่มขึ้น 20 จุด ที่ระดับ 1,340.99 จุด มูลค่าการซื้อขาย 43,666 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 63 ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า ก่อนปิดที่ระดับ 1,340.99 จุด เพิ่มขึ้น 20.01 จุด (+1.51%) มูลค่าซื้อขายราว 43,666 ล้านบาท โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,345.31 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,332.30 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ใกล้เคียงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวกเฉลี่ยราว 1.5% หลัง "โนวาแวกซ์" บริษัทพัฒนาวัคซีนรายใหญ่ในสหรัฐเริ่มทดลองใช้วัคซีนต้านโควิดเฟสแรก และคาดรู้ผลในก.ค.นี้ ขณะที่สถานการณ์ระหว่างจีน และฮ่องกง ดูจะผ่อนคลายไปได้บ้างหลังการแทรกแซงอ่อนลง ส่งผลให้ตลาดหุ้นฮ่องกงบวกได้เกือบ 2% ถือว่าเป็นโมเมนตัมที่ใช้ได้
ส่วนบ้านเราจะเห็นได้ว่าหุ้นในกลุ่มโรงแรมปรับตัวขึ้นได้ดีในเช้านี้ หลังจากที่ Laggard มานาน และแม้คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/63 จะไม่ดี ก็ดูเหมือนจะมองข้ามไป เพราะนักลงทุนคาดหวังภาครัฐฯจะออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ว่าจะมีอะไรออกมาบ้าง และให้ติดตามการปลดล็อกดาวน์ เฟส 3 รวมถึงให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในสัปดาห์นี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนนอกประเทศยังต้องติดตามสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยให้ติดตามทิศทางตลาดในยุโรปที่จะเทรดบ่ายนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,333 จุด ส่วนแนวต้าน 1,350-1,360 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
MINT มูลค่าการซื้อขาย 3,339.06 ล้านบาท ปิดที่ 19.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.80 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,600.89 ล้านบาท ปิดที่ 70.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,393.39 ล้านบาท ปิดที่ 19.60 บาท เพิ่มขึ้น 2.20 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 1,383.23 ล้านบาท ปิดที่ 23.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,081.53 ล้านบาท ปิดที่ 37.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท