หุ้นไทยเคลื่อนไหวกรอบแคบ ปิดภาคเช้าร่วง4.33จุด

หุ้นไทยปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,607.84 จุด ลดลง 4.33 จุด มูลค่าการซื้อขาย 18,689.11 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 9 ต.ค.62 ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ก่อนปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,607.84 จุด ลดลง 4.33 จุด (-0.27%) มูลค่าการซื้อขาย 18,689.11 ล้านบาท โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,613.58 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,603.97 จุด

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบช่วงรอผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนระหว่างวันที่ 10-11 ต.ค.ขณะที่ล่าสุดมีข่าวเชิงลบว่าสหรัฐประกาศขึ้นบัญชีดำต่อบริษัทเทคโนโลยีของจีน 28 แห่ง ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็ติดลบ

ส่วนบ้านเราสภาพคล่องถูกดูดออกไปก่อนหน้านี้ ส่วนหนึ่งนำไปซื้อหุ้น IPO ของ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) ดังนั้นวอลุ่มเทรดตลาดฯจะเพิ่มขึ้นได้หลังจากหุ้น AWC เข้าเทรดพรุ่งนี้ แต่ตลาดฯอาจไม่กระเตื้องมากนักเนื่องจากใกล้วันหยุดยาว3 วันติดต่อกัน ดังนั้นจึงแนะให้ติดตามสัปดาห์หน้าหุ้นกลุ่มแบงก์ทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 3/62 อาจทำให้มีแรงเก็งกำไรเข้ามาได้บ้างหลังจากปรับตัวลงไปมากแล้ว แต่ก็ขึ้นกับผลการเจรจาการค้าด้วยว่าจะออกมาเป็นอย่างไร

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯคงยังแผ่วช่วงรอการเจรจาการค้า พร้อมให้แนวรับ 1,600-1,590 จุด ส่วแนวต้าน 1,620 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,018.74 ล้านบาท ปิดที่ 76.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท

SCC มูลค่าการซื้อขาย 953.40 ล้านบาท ปิดที่ 385.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

BGRIM มูลค่าการซื้อขาย 919.35 ล้านบาท ปิดที่ 44.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 744.65 ล้านบาท ปิดที่ 12.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 681.10 ล้านบาท ปิดที่ 116.50 บาท ลดลง 1.50 บาท