posttoday

หุ้นไทย4ต.ค.ปิดภาคเช้าบวก0.38จุด

04 ตุลาคม 2562

ตลาดหุ้นไทย 4 ต.ค.62 ปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,611.07 จุด เพิ่มขึ้น 0.38 จุด มูลค่าการซื้อขาย 16,749.28 ล้านบาท

ตลาดหุ้นไทย 4 ต.ค.62 ปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,611.07 จุด เพิ่มขึ้น 0.38 จุด มูลค่าการซื้อขาย 16,749.28 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 62 ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยปิดช่วงเช้าระดับ 1,611.07 จุด เพิ่มขึ้น 0.38 จุด (+0.02%) มูลค่าการซื้อขาย 16,749.28 ล้านบาท ดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,615.33 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,607.80 จุด

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยดัชนีฯเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ แม้จะมีปัจจัยบวกจากนอกประเทศ จากนักลงทุนคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มสูงถึง 80% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30-31 ต.ค.นี้

แต่ด้วยภาพของเศรษฐกิจภายในประเทศที่อ่อนแอ โดยคาดการณ์ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/62 ของหุ้นในกลุ่มบริโภค-อุปโภค และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ น่าจะออกมาอ่อนแอ รวมถึงการผ่านงบประมาณรายจ่ายประจำปี 63 ที่ล่าช้า ซึ่งมองว่าน่าจะเห็นเม็ดเงินไหลเข้าสู่เศรษฐกิจจริงได้ในช่วงไตรมาส 2/63 ส่งผลทำให้ตลาดฯเกิดความกังวล สะท้อนภาพของการลงทุนในช่วงต้นเดือนต.ค.อ่อนแอ

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ แนะนำนักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นรายตัว โดยแนะหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว และหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง รวมถึงหุ้นที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/62 ออกมาดี ได้แก่ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT), บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG), บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP), บมจ.ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ (TEAMG) และบมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL)

สำหรับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ เป็นไปตามปัจจัยของแต่ละประเทศ ประกอบกับน่าจะรอดูการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ หากมีการเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนออกไป จากเดิมเป็นวันที่ 15 ต.ค.นี้ คาดว่าจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อตลาด

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกิจพล กล่าวว่า ตลาดฯน่าจะยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ พร้อมให้แนวรับ 1,600 จุด และแนวต้าน 1,650 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,063.03 ล้านบาท ปิดที่ 117.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 855.86 ล้านบาท ปิดที่ 224.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 652.59 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท ลดลง 0.50 บาท

SCC มูลค่าการซื้อขาย 652.42 ล้านบาท ปิดที่ 400.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 574.31 ล้านบาท ปิดที่ 114.50 บาท ลดลง 1.00 บาท