posttoday

หุ้นไทย2ก.ย.พลิกปิดลดเล็กน้อย0.81จุด

02 กันยายน 2562

หุ้นไทย 2 ก.ย.ปิดที่ระดับ1,654.11 จุด ลดลง 0.81 จุด มูลค่าการซื้อขาย 52,702.62 ล้านบาท คาดแนวโน้มวันพรุ่งนี้ดัชนียังแกว่งไซด์เวย์

หุ้นไทย 2 ก.ย.ปิดที่ระดับ1,654.11 จุด ลดลง 0.81 จุด มูลค่าการซื้อขาย 52,702.62 ล้านบาท คาดแนวโน้มวันพรุ่งนี้ดัชนียังแกว่งไซด์เวย์

เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 62 ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้าก่อนจะพลิกมาเคลื่อนไหวในแดนบวกในช่วงบ่าย และปิดตลาดที่ ระดับ 1,654.11 จุด ลดลง 0.81 จุด (-0.05%) มูลค่าการซื้อขาย 52,702.62 ล้านบาท โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,658.66 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,646.59 จุด

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่ง Sideway ออกด้านข้าง โดยช่วงเช้าดัชนีอ่อนตัวลงจากความกังวลต่อสงครามการค้าที่สหรัฐและจีน เดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้าระหว่างกันเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ตามแผนที่ประกาศก่อนหน้านี้ แต่ดัชนีกลับมาเคลื่อนไหวแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ในการซื้อขายช่วงบ่าย ซึ่งน่าจะเป็นภาพของการเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์จากที่ปรับลงไปมากในช่วงเช้า ประกอบกับมีแรงซื้อหุ้น GULF เข้ามาอย่างคึกคัก จากข่าวเตรียมลงทุนโรงไฟฟ้าก๊าซฯขนาด 6,000 เมกะวัตต์ในเวียดนาม ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่

อย่างไรก็ตามภาพรวมนักลงทุนยังรอดูประเด็นใหม่ที่จะเข้ามาในเดือนก.ย. ทั้งการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในกลางเดือนก.ย.นี้ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจทั่วโลกยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ยกเว้นจีนที่เมื่อช่วงเช้าประกาศตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค. ออกมาดีกว่าที่คาด แต่ภาพรวมก็ยังไม่เป็นทิศทางบวกที่ชัดเจน

ขณะเดียวกันการที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นเบาบางลง และเปิดสถานะ long ในตลาดอนุพันธ์ ภาพระยะสั้นอาจเป็นการซื้อจากความคาดหวังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่จะมีขึ้นในเดือนนี้ ทำให้สงครามการค้ามีความผ่อนคลายมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้ให้น้ำหนักต่างชาติในการซื้อสุทธิต่อเนื่องในปริมาณที่มีนัยสำคัญ

ส่วนแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ มองว่าดัชนีจะยังเคลื่อนไหว Sideway ในกรอบที่ค่อนข้างกว้าง 15-20 จุด ระหว่างวันอาจเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบ โดยมีแนวรับที่ 1,645 และแนวต้านที่ 1,665 จุด เพื่อรอดูปัจจัยใหม่ทั้งพัฒนาการสงครามการค้า และการประชุมเฟด ที่ยังมีความไม่ชัดเจนว่าจะออกมาดีหรือไม่ดี รวมถึงการการทวีตข้อความจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดเดาได้

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

GULF มูลค่าการซื้อขาย 3,563.83 ล้านบาท ปิดที่ 158.50 บาท เพิ่มขึ้น 13.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,125.85 ล้านบาท ปิดที่ 43.50 บาท ลดลง 0.75 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,953.33 ล้านบาท ปิดที่ 72.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

EA มูลค่าการซื้อขาย 1,650.51 ล้านบาท ปิดที่ 48.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,297.19 ล้านบาท ปิดที่ 83.50 บาท ลดลง 0.50 บาท