posttoday

"เฟรเซอร์ส"ผนึก"เซ็นทรัล รีเทล" เนรมิตโลจิสติกส์แคมปัสแห่งแรกของไทย

16 สิงหาคม 2562

พัฒนาศูนย์กระจายสินค้า Omnichannel ระดับเวิลด์คลาส บนพื้นที่กว่า 75,000 ตารางเมตร ย่านบางพลี

พัฒนาศูนย์กระจายสินค้า Omnichannel บนพื้นที่กว่า 75,000 ตารางเมตร ย่านบางพลี เพิ่มการจ้างงานกว่า 1,000 ตำแหน่ง

นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมลงนามในสัญญาเช่าระยะยาว 15 ปี กับบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (Central Retail) เพื่อพัฒนาศูนย์กระจายสินค้า Omnichannel ขนาดพื้นที่กว่า 75,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ภายในโครงการเฟรเซอร์สพร็อพเพอร์ตี้โลจิสติกส์เซ็นเตอร์ (บางพลี) พร้อมยกระดับสู่การเป็น "โลจิสติกส์แคมปัสระดับเวิลด์คลาส" (World-Class Logistics Campus) แห่งแรกของไทย ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์และการกระจายสินค้าในยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ภายในโครงการแห่งเดียวกันนี้มีศูนย์กระจายสินค้าแบบ Build-to-Suit ของเพาเวอร์บาย พื้นที่รวมกว่า 30,000 ตารางเมตร ซึ่ง FPT พัฒนาขึ้นและได้มีการส่งมอบอาคารเป็นที่เรียบร้อยในปี 2561 ที่ผ่านมา จึงทำให้โครงการแห่งนี้ ถือเป็น "โลจิสติกส์แคมปัส" ของธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทล ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพของการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์และการกระจายสินค้า ไปพร้อมกับการช่วยให้สามารถควบคุมต้นทุนด้านโลจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"ความร่วมมือครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของ FPT ที่ไม่ได้เป็นเพียงผู้พัฒนาโรงงานและคลังสินค้า แต่เป็นผู้มอบประสบการณ์อันทรงคุณค่าให้แก่ลูกค้าและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายอีกด้วย"นายโสภณ กล่าว

นายโสภณ กล่าวว่า บริษัทเชื่อมั่นในความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการพัฒนาอาคารแบบ Build-to-Suit คุณภาพสูงมาตรฐานระดับสากลที่มีมาอย่างยาวนานของ FPT จะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและเสริมความแข็งแกร่งให้กับเซ็นทรัล รีเทล ทั้งในเรื่องทำเลที่ตั้งที่เป็นทำเลยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ในการยกระดับโครงการแห่งนี้สู่การเป็น "โลจิสติกส์แคมปัสระดับเวิลด์คลาส" ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินงานและควบคุมต้นทุนด้านโลจิสติกส์

การวางระบบจัดการภายในอาคารที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ พร้อมส่งมอบอาคารอนุรักษ์พลังงาน ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เต็มพื้นที่หลังคาโครงการ และอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการรับรองมาตรฐานอาคารเขียว หรือ LEED (Leadership in Energy and Environmental Design by U.S. Green Building Council)

นอกจากนี้ มีการออกแบบอาคารให้มีความยืดหยุนต่อการใช้งานพร้อมรองรับการเติบโตทางธุรกิจของลูกค้า พร้อมด้วยโซนจัดเก็บสินค้าที่มีความสูงมากกว่า 25 เมตร พร้อมความสามารถในการรับน้ำหนักได้มากถึง 10 ตันต่อตารางเมตร เพื่อรองรับการติดตั้งระบบจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ (Automated Storage and Retrieval Systems หรือ ASRS) รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่าง ๆ ในอนาคต ได้ตามความต้องการของลูกค้า

ด้านนายปิยะพงษ์ ธัญญศรีสังข์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล กล่าวว่า ศูนย์กระจายสินค้า Omnichannel แห่งนี้จะเป็นอีกหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญในการส่งมอบบริการที่สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของการซื้อขายผ่านช่องทาง Omnichannel ในทุกกลุ่มธุรกิจค้าปลีกของเซ็นทรัล รีเทล

โดยยอดขายจาก Omnichannel ของกลุ่มแฟชั่น กลุ่มฮาร์ดไลน์ และกลุ่มฟู้ด เพิ่มขึ้น 16% 28% และ 48% ตามลำดับ ในปี 2560 และเพิ่มขึ้นอีกในปี 2561 คิดเป็น 72% 75% และ 31% ตามลำดับ และเพิ่มขึ้นอีกในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562 คิดเป็น 104% 50% และ 26% ตามลำดับ

ทั้งนี้ เซ็นทรัล รีเทล ถือเป็นเจ้าแรกที่มีการวางแผนระยะยาวในการพัฒนาอี-โลจิสติกส์ (E-Logistics) สอดรับกับทิศทางการดำเนินธุรกิจในการก้าวขึ้นเป็น ‘ผู้นำธุรกิจค้าปลีกของไทยรายแรกที่เป็น Omnichannel เต็มรูปแบบ

โดยวางกลยุทธ์ให้ศูนย์กระจายสินค้า Omnichannel แห่งใหม่นี้มีบทบาทในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ให้สามารถบริหารจัดการสินค้าหลากหลายประเภท (Multi-Category) จากแบรนด์ต่างๆ ภายใต้เครือเซ็นทรัล รีเทล เพื่อกระจายสินค้าไปสู่ช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย (Multi-Channel) อย่างครอบคลุมและเพียงพอต่อความต้องการทางการตลาด ทั้ง Physical Platform และ Digital Platform โดยดึงนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการดำเนินงาน อาทิ ระบบสั่งซื้อสินค้า E-Ordering ระบบจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ (ASRS) และระบบอุปกรณ์สั่งงานด้วยเสียงอัตโนมัติ (Automation Voice-Picking) เป็นต้น และที่สำคัญเรายังช่วยเพิ่มอัตราการจ้างงานของย่านบางพลีเพิ่มอีกกว่า 1,000 ตำแหน่ง

เซ็นทรัล รีเทล ยังร่วมกับ FPT ออกแบบและพัฒนาอาคารให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นในการใช้พลังงานทดแทน โดยจะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เต็มพื้นที่หลังคาอาคาร นอกจากนี้ยังคำนึงถึงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของพนักงานด้วยการเพิ่มโคเวิร์คกิ้งสเปซ ลู่วิ่งรอบอาคาร และห้องออกกำลังกายอเนกประสงค์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นโลจิสติกส์เดียวในไทยที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ให้พนักงาน

พร้อมตั้งเป้าหมายให้โลจิสติกส์แคมปัสระดับเวิลด์คลาสแห่งนี้ เป็นศูนย์กลางในการเก็บและกระจายสินค้าของบริษัทในกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล ทั่วประเทศ อาทิ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ซูเปอร์สปอร์ต บีทูเอส ออฟฟิศเมท ร้านค้าในกลุ่มเซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (ซีเอ็มจี) และรวมไปถึงเพาเวอร์บาย