posttoday

บ้านปู ครึ่งปีแรกกระแสเงินสดพุ่ง 2.5 หมื่นล้าน

14 สิงหาคม 2562

เงินพร้อมรองรับจ่ายเงินกู้ ปันผล ลงทุนตามแผน ปี 62-63 ตั้งงบลงทุนธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 1.5 หมื่นล้านบาท

เงินพร้อมรองรับจ่ายเงินกู้ ปันผล ลงทุนตามแผน ปี 62-63 ตั้งงบลงทุนธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 1.5 หมื่นล้านบาท

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู (BANPU)เปิดเผยว่า ครึ่งปีแรก บ้านปูฯ มีความคืบหน้าด้านการลงทุนในกลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานอย่างต่อเนื่อง ตามแผนกลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ที่เอื้อประโยชน์และส่งเสริมซึ่งกันและกันระหว่าง 3 กลุ่มธุรกิจหลัก (กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน)

ตลอดจนเดินหน้าวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีพลังงาน มุ่งสร้างแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานภายใน รวมถึงการมอบโซลูชันด้านพลังงานในรูปแบบใหม่ที่สอดรับกับเทรนด์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

สำหรับกลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน เน้นเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการบริหารต้นทุนในธุรกิจถ่านหินอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับราคาถ่านหินในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง

ในขณะเดียวกัน ด้วยความเชื่อมั่นในทิศทางการเติบโตของธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัทฯ ได้ตั้งงบประมาณการลงทุนจำนวน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 15,794 ล้านบาท) สำหรับการลงทุนเพื่อเพิ่มปริมาณสำรองการผลิตในปี 2562-2563 โดยเน้นลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติที่อยู่ใกล้เคียงกับแหล่งการผลิตเดิมสร้างกระแสเงินสดอยู่แล้ว มีกำไรที่รับรู้ได้ทันที ซึ่งคาดว่ากระแสเงินสดที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติ จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ Greener & Smarter ได้อย่างแข็งแกร่ง

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินมาตรการบริหารกระแสเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ในครึ่งแรกของปี 2562 บริษัทฯ มีกระแสเงินสดรวม 794 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 25,090 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากงวดสิ้นปี 2561 จำนวน187 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5,909 ล้านบาท) หรือ 31 %ทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมทางการเงินสำหรับการจ่ายเงินกู้ การจ่ายเงินปันผล และการลงทุนตามแผนที่วางไว้ เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนที่สอดคล้องกับเทรนด์พลังงานและสิ่งแวดล้อมโลก และสร้างผลตอบแทนระยะยาวแก่นักลงทุน

บ้านปู รายงานผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2562 มีรายได้จากการขายรวม 1,430 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 45,188 ล้านบาท) มีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (อีบิตดา) 399 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 12,608 ล้านบาท) และมีกำไรสุทธิ 32 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,011 ล้านบาท)

พร้อมเปิดเผยความคืบหน้า 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน เติบโตตามกลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจร

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงานสามารถเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิต 168 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดนิญถ่วน ในเวียดนาม โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวอยู่ภายใต้การดำเนินงานของซันซีป กรุ๊ป ผู้นำด้านการให้บริการพลังงานแสงอาทิตย์รายใหญ่ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้าของบ้านปูฯ ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนจากโรงไฟฟ้าดังกล่าวรวม 65 เมกะวัตต์

ด้านบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบ้านปูฯ ยังได้ลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จีซิน ขนาดกำลังผลิต 25 เมกะวัตต์ ที่ตั้งอยู่ในมณฑลเจียงซู ในจีน ซึ่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว โดยจะรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 3/62 ทั้งนี้ บ้านปูฯ ยังคงมองหาโอกาสการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนตามแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทบ้านปูฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าในกลุ่มธุรกิจผลิตพลังงานตามสัดส่วนการลงทุน รวม 2.4 กิกะวัตต์ โดยมีสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน 20 %

สำหรับกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังคาในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตามสัดส่วนการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 89 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ บริษัท Durapower Technology ในสิงคโปร์ที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ผลิต และติดตั้งระบบแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน (LiB) ในอุตสาหกรรมยานยนต์และระบบกักเก็บพลังงาน ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของบ้านปูฯ ยังได้ขยายกำลังการผลิตของโรงงานที่ตั้งอยู่ในเมืองซูโจวของจีน เพิ่มเติมจาก 80 เมกะวัตต์ชั่วโมง เป็น 380 เมกะวัตต์ชั่วโมง