posttoday

กองรีทไทย บาดตาเซียน ให้ผลตอบแทนจากปันผล 4-5 %

01 สิงหาคม 2562

บลจ.พรินซิเพิล แนะเป็นจังหวะทยอยลงทุนกองรีทไทยเหตุอัตราเช่าพื้นที่และค่าเช่ายังอยู่ในเกณฑ์ดี

บลจ.พรินซิเพิล แนะเป็นจังหวะทยอยลงทุนกองรีทไทยเหตุอัตราเช่าพื้นที่และค่าเช่ายังอยู่ในเกณฑ์ดี

นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล (บลจ.พรินซิเพิล) เปิดเผยว่า บริษัทฯประเมินทิศทางการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองรีทในประเทศไทยช่วงครึ่งปีหลัง ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีจากการคาดหวังโอกาสรับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลที่อัตราเฉลี่ย 4-5%

ทั้งนี้ เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนเชิงบวกต่อสินทรัพย์ของกองทุนประเภทดังกล่าว เช่น อุปสงค์ในตลาดอาคารสำนักงานให้เช่าปัจจุบันที่มีอยู่อย่างจำกัด อัตราค่าเช่าพื้นที่และค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งปีหลังยังมีความผันผวนสูงจากการดำเนินนโยบายปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะส่งผลให้เกิดกระแสเงินไหลเข้าสู่กองรีทซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีลักษณะ Yield Play Assets หรือ สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนจากการจ่ายเงินปันผล

นอกจากนี้ ด้วยราคาสินทรัพย์ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองรีท ที่ปรับลดลงตั้งแต่ในช่วงที่ผ่านมาจากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุน หลังราคาสินทรัพย์ประเภทดังกล่าวได้ปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ซึ่งการปรับฐานดังกล่าวเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในครึ่งปีหลังราคาสินทรัพย์จะปรับตัวลดลงไม่มากนัก และเป็นโอกาสดีของนักลงทุนที่จะทยอยเข้าลงทุนในกองรีทในจังหวะที่ราคาหน่วยลงทุนถูกลง แม้ว่า valuation และราคาหน่วยลงทุนโดยรวมไม่ถูกนัก

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. พรินซิเพิล กล่าวว่า ด้วยมุมมองดังกล่าว จึงแนะนำทยอยเข้าลงทุนในกองทุนเปิดพรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม พลัส เฮลท์ (PRINCIPAL iPROPPLUS)

 
โดยกองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ (Property Sector Fund) ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าวผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก) จีงแนะนำให้ลงทุนเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ต ด้วยการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเป็น 10-20% ของมูลค่าพอร์ตรวม เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนในภาวะที่ตลาดการเงินโลกมีความไม่แน่นอน

ขณะที่กองทุนฯ สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี โดยให้อัตราผลตอบแทนนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนฯ (1 ส.ค. 2561 - 30 มิ.ย. 2562) หรือระยะเวลา 11 เดือน ที่ 17.81% และในปีนี้จ่ายเงินปันผลแล้ว 2 ครั้ง รวม 0.75 บาทต่อหน่วย