posttoday

สหกล คว้าสิทธิพัฒนาเหมืองถ่านหินในเมียนมาร์  

11 กรกฎาคม 2562

นายศาศวัต ศิริสรรพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ (SQ) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงกับ บริษัท Golden Lake Co., Ltd หรือ GL เพื่อร่วมทุนจัดตั้งบริษัทฯใหม่ (โดย SQ จะถือหุ้นใหญ่ 70% และ GL ถือหุ้น 30%) เพื่อรับสิทธิทำเหมืองถ่านหิน “เมืองก๊ก”(Mai Khot Coal Mine)ซึ่งตั้งอยู่ที่ รัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์

นายศาศวัต ศิริสรรพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ (SQ) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงกับ บริษัท Golden Lake Co., Ltd หรือ GL เพื่อร่วมทุนจัดตั้งบริษัทฯใหม่ (โดย SQ จะถือหุ้นใหญ่ 70% และ GL ถือหุ้น 30%) เพื่อรับสิทธิทำเหมืองถ่านหิน “เมืองก๊ก”(Mai Khot Coal Mine)ซึ่งตั้งอยู่ที่ รัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์

เหมืองถ่านหิน “เมืองก๊ก” มีขนาดใหญ่ ถึง 13 ตารางกิโลเมตร และคาดการณ์ในเบื้องต้นว่ามีปริมาณถ่านหินทางธรณีวิทยา ประเภท ซับบิทูมินัส และลิกไนต์ ประมาณ 100 ล้านตันซึ่งเป็นปริมาณที่มากเพียงพอสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง ของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ และสำหรับจำหน่ายให้กับกลุ่มบริษัทต่างๆ ที่ปัจจุบันซื้อถ่านหินจากอินโดนีเซีย ซึ่งมีต้นทุน ค่าขนส่งที่สูงกว่าถ่านหินที่เหมือง “เมืองก๊ก” มาก

โดย SQ คาดว่าจะมีรายได้จากโครงการนี้ประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท ภายใน 28 ปี ตามแผนการทำงานในเบื้องต้น โดยเป็นรายได้การจำหน่ายถ่านหิน (ภายใต้บริษัทร่วมทุน) มากกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท และรายได้จากการรับงานทำเหมืองถ่านหิน จากโครงการนี้ในเฟสแรกประมาณร่วม 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ปริมาณงานในมือเพิ่มขึ้นจาก 3.03 หมื่นล้านบาท ในปัจจุบันเป็นประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท

การได้สิทธิในการทำเหมืองถ่านหิน จะเป็นก้าวย่างที่สำคัญของบริษัทฯจากการเป็น ผู้รับเหมางานเหมืองแร่ สู่การเป็นผู้รับสิทธิพัฒนาเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่ ระยะเวลาประมาณ 30 ปี ซึ่งจะทำให้บริษัทฯมีพื้นฐานธุรกิจที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นจากการมีรายได้หลัก 2 ด้าน คือ รายได้จากการจำหน่าย ถ่านหินและ จากรายได้หลักคือการรับเหมาทำเหมืองแร่ภายใต้สัญญาระยะยาวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย และ บริษัท หงสา พาวเวอร์ (ในกลุ่มของบริษัท บีพีพี พาวเวอร์) ซึ่งรองรับการรับรู้ รายได้ประมาณ 9 ปี

นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังศึกษาโครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่บริเวณ เหมืองถ่านหิน เมืองก๊กนี้ และเตรียมยื่นขอใบอนุญาติสร้างโรงไฟฟ้ากับทางรัฐบาลกลางของเมียนมาร์ เนื่องจากเศรษฐกิจบริเวณนั้น มีศักยภาพที่จะขยายตัวได้สูง จากการเปิดประเทศของเมียนมาร์ ทำให้ปริมาณการค้าที่เพิ่มมากขึ้น และการลงทุนภาคอุตสาหกรรมกำลังจะขยายตัว และที่สำคัญยังไม่มี โรงไฟฟ้ารองรับการขยายตัวดังกล่าว ซึ่งหากโครงการนี้เป็นผลสำเร็จ SQ จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น อย่างมีเสถียรภาพ และ ทำให้ บริษัทฯมีฐานธุรกิจที่มั่นคงยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ บริษัท สหกล อิควิปเมนท์ มีผลประกอบการ ที่กลับมาเติบโตสูงอีกครั้ง โดยในไตรมาส 1 ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 92 ล้านบาท เติบโตถึง 340% จากขาดทุนสุทธิ 39 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน จากรายได้รวม 1,246 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% จากรายได้รวม 836 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน