posttoday

โบรกฯเตือนระวังแรงขายหุ้นทำกำไร ต่างชาติล็อกความเสี่ยงแล้ว

02 กรกฎาคม 2562

นักลงทุนต่างชาติเปิดก๊อก กลับมาซื้อหุ้นไทยเช่นเดียวกับภูมิภาค หลังเงินบาทแข็งค่าในรอบ 6 ปี ทำให้มียอดซื้อสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน 4.5 หมื่นล้านบาท ( ณ 1 ก.ค.62) ปัจจัยสนับสนุนจาก 2 เรื่องหลัก คือ ดอกเบี้ยโลกมีทิศทางขาลง และการพักรบชั่วคราวระหว่างสหรัฐฯกับจีน

นักลงทุนต่างชาติเปิดก๊อก กลับมาซื้อหุ้นไทยเช่นเดียวกับภูมิภาค หลังเงินบาทแข็งค่าในรอบ 6 ปี ทำให้มียอดซื้อสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน 4.5 หมื่นล้านบาท ( ณ 1 ก.ค.62) ปัจจัยสนับสนุนจาก 2 เรื่องหลัก คือ ดอกเบี้ยโลกมีทิศทางขาลง และการพักรบชั่วคราวระหว่างสหรัฐฯกับจีน

อย่างไรก็ดี บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ไทยพาณิชย์ ระบุว่า แม้วานนี้ (1 ก.ค.) นักลงทุนต่างชาติจะใส่เกียร์โหมซื้อสุทธิหุ้นไทยถึง 4.7 พันล้านบาท แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าต่างชาติได้ชอต (Short ) หรือขายสุทธิใน SET 50 ฟิวเจอร์ส ซึ่งเป็นตลาดล่วงหน้า กว่า 2.1 หมื่นสัญญา

บล.เอเซีย พลัส คาดว่า SET Index น่าจะปรับตัวขึ้นสะท้อนผลการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่ออกมาในเชิงบวก แต่ก็น่าจะอยู่ในกรอบที่จำกัด และต้องระวังแรงขายทำกำไร หลังจากราคาหุ้นได้ปรับขึ้นไปรอรับข่าวล่วงหน้ามากแล้วระดับหนึ่ง ขณะที่เงินบาทที่แข็งค่าเร็วเกินไปอาจทำให้กระแสเงินลงทุนต่างชาติ(ฟันด์โฟลว์) ที่จะไหลเข้ามาใหม่ชะลอตัว

พร้อมเตือนนักลงทุนต้องคอยเฝ้าระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากหากนับผลตอบแทนรวม (ที่รวมการเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน) ตั้งแต่ต้นปี 2562 ถึงปัจจุบัน สูงถึง 17.4% (SET Index เพิ่มขึ้น 10.64% รวมกับค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 6.09 %) สูงกว่าตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคมาก ยกเว้นตลาดหุ้นจีนเพียงแห่งเดียวเท่านั้น

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มองว่าระยะสั้นหุ้นไทยอาจปรับฐาน แต่คาดว่าดัชนีไม่หลุด 1,730 จุด มองเป็นเพียงการปรับฐานในระยะสั้น อาจเป็นจังหวะซื้อบริเวณ 1,730-1,735 จุด เพื่อเก็งกำไร ให้แนวต้านที่ 1,750 และ 1,770 จุด แต่ผิดคาดหลุด 1,730 จุด แนะนำขายล็อกกำไรในขาขึ้นรอบนี้ ขณะที่ประเมินดัชนีเป้าหมายปีนี้ที่ 1,750-1,800 จุด

บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำเดือน ก.ค. ให้ปรับพอร์ตลดความเสี่ยงบ้าง เน้นหุ้นเสี่ยงต่ำและหุ้นเชื่อมโยงปัจจัยภายใน เนื่องจากมองว่า SET Index มีทางขึ้นจำกัด และฟันด์โฟลว์ต่างชาติอาจผันผวนมากขึ้นตามค่าเงินบาทที่อาจแข็งค่าได้อีกไม่มาก

"เราแนะนำให้นักลงทุนเตรียมรับตลาดหุ้นที่จะชะลอตัวลงในเดือนก.ค.นี้ และหลีกเลี่ยงหุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ หรือปรับพอร์ตลดน้ำหนักหากมีหุ้นพวกดังกล่าวอยู่ "บทวิเคราะห์บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุ

 

สำหรับธีมการลงทุนที่แนะนำในเดือนก.ค.นี้ได้แก่

 

1.หุ้นที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากการประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) และความมั่นใจต่อการเมืองภายในประเทศ

2.หุ้นกลุ่มการบริโภคซึ่งจะได้อานิสงส์จากการบริโภคภาคเอกชนที่ยังคงเติบโตเด่นเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของรัฐบาล

3.หุ้นที่มีแนวโน้มกำไรชัดเจน (earnings visibility) และผลประกอบการเติบโตแข็งแกร่งในปี 2562

4.หุ้นที่จ่ายปันผลในอัตราสูง

จาก 4 ธีมข้างต้น มีหุ้นแนะนำในเดือน ก.ค. ได้แก่ STEC CPALL GLOBAL BGRIM MBK LPN และ PSH