posttoday

อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด อินเวสเมนท์ เปิดสูตรลงทุนสไตล์ ESG

01 กรกฎาคม 2562

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด (ประเทศไทย) จัดงานสัมมนาภายใต้หัวข้อ “The Importance of ESG Integration” เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2562 เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นในการลงทุนแบบ ESG ในบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยคำนึงถึงการเติบโตของผลกำไรบริษัทควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด (ประเทศไทย) จัดงานสัมมนาภายใต้หัวข้อ “The Importance of ESG Integration” เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2562 เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นในการลงทุนแบบ ESG ในบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยคำนึงถึงการเติบโตของผลกำไรบริษัทควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล

ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจได้ว่าเงินลงทุนจะสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว ซึ่งการลงทุนตามทฤษฎีดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนอย่างยั่งยืนที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลกในปัจจุบัน

การลงทุนแบบ ESG คือ กลยุทธ์การคัดเลือกบริษัทที่มีนโยบายในการประกอบธุรกิจที่ยั่งยืนโดยคำนึงถึงความรับผิดชอบและสร้างสรรค์สังคม ทั้ง 3 ส่วน ประกอบไปด้วย

E มาจากคำว่า Environment (สิ่งแวดล้อม) หมายถึง การที่บริษัทมีนโยบายการทำงานเพื่อรองรับการดูแลและจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม มีหลักเกณฑ์ในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถกำหนดกลยุทธ์ในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของบริษัทอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายๆ ด้าน อาทิ การบริหารจัดการขยะอุตสาหกรรม การดูแลจัดการมลพิษทางอากาศ และการบริหารน้ำ พลังงาน อย่างรู้คุณค่า เป็นต้น

S มาจากคำว่า Social (สังคม) หมายถึง การที่บริษัทมีนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกัน ทั้งภายในและภายนอกองค์กรเพื่อพัฒนาส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่มั่นคง รวมถึงการเปิดโอกาสให้ชุมชนที่บริษัทมีความเกี่ยวข้องสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

G มาจากคำว่า Governance (ธรรมาภิบาล) หมายถึง การที่บริษัทมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีการดำเนินงานที่โปร่งใส มีแนวทางในการบริหารความเสี่ยงที่ชัดเจน มีนโยบายต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชั่น ตลอดจนดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงการจ่ายภาษีให้แก่รัฐอย่างโปร่งใส

อดิเทพ วรรณพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุน บลจ.อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจุบัน อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด (ประเทศไทย) มีนโยบายการลงทุนแบบเชิงรุก (Active Management) และมีการบริหารพอร์ตโดยเน้นกลยุทธ์แบบ Bottom Up Approach หรือ การวิเคราะห์หลักทรัพย์รายตัวด้วยเกณฑ์การพิจารณาที่ประกอบด้วยปัจจัยหลักรอบด้าน ซึ่งมีขั้นตอนแตกต่างจากบริษัทอื่นอย่างชัดเจนโดยใช้หลักการ คุณภาพ มูลค่า และการเปลี่ยนแปลง (Quality and Value, Change) โดยเน้นการถือหลักทรัพย์ที่ผ่านการคัดกรองแล้วในระยะยาวเพื่อสร้างโอกาสผลตอบแทนที่มั่นคง

อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด (ประเทศไทย) มุ่งเน้นการลงทุนระยะยาวโดยพิจารณาจากปัจจัยคุณภาพ (Quality) ซึ่งจะต้องเป็นการลงทุนในบริษัทหรือหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจ อุตสาหกรรม การเจริญเติบโตที่เหมาะสม รวมถึง ปัจจัยคุณภาพในแง่การประกอบธุรกิจที่ยั่งยืนโดยคำนึงถึงความรับผิดชอบและสร้างสรรค์ต่อสังคม รวมถึงการลงทุนนั้นจะต้องเหมาะสมในแง่มูลค่า (Value) จึงจะสามารถทำการลงทุนได้ หากมูลค่าการลงทุนไม่เหมาะสม ทางบริษัทจะพิจารณาไม่ลงทุน และเชื่อมั่นได้ว่าเป็นการลงทุนที่เหมาะสมเพื่อนักลงทุนอย่างแท้จริง

ในระหว่างการลงทุน บริษัทอาจจะประเมินปัจจัยเปลี่ยนแปลง (Change) อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด (ประเทศไทย)ก็ยังคงจะติดตามการลงทุนอย่างต่อเนื่องในแง่คุณภาพว่าการลงทุนดังกล่าวยังคงเหมาะสมต่อการลงทุนอยู่หรือไม่ มีผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์ในระยะสั้นที่ทำให้ราคาสินทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปจากมูลค่าที่ประเมิน บริษัทอาจทำการปรับเปลี่ยนการลงทุนโดยทำการขายทำกำไรหรือเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในช่วงที่หลักทรัพย์มีการปรับตัวลงเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการแกว่งตัวของตลาดและผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน

ขณะที่ เดวิด สมิธ หัวหน้าฝ่ายกำกับดูแลธรรมาภิบาล ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด อินเวสเม้นท์ (เอเชียแปซิฟิค) กล่าวว่า กลุ่มบริษัทฯ เล็งเห็นความสำคัญของการลงทุนแบบ ESG โดยนับเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของกลยุทธ์การลงทุนทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก

ดังนั้น ขั้นตอนการประเมินคุณภาพหลักทรัพย์ทั้งก่อนและหลังการลงทุน ได้มีการรวมถึงการพิจารณาหลักทรัพย์และการลงทุนตามหลัก ESG ไปด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่ง อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด อินเวสเม้นท์ มีทีมวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์ด้านการลงทุนที่จะพิจารณาเฉพาะด้าน ESG ประจำอยู่ในแต่ละภูมิภาคโดยเฉพาะเพื่อให้แน่ใจว่าทุกการลงทุนของอเบอร์ดีน สแตนดาร์ด อินเวสเม้นท์ เป็นไปตามหลัก ESG อย่างแท้จริง