posttoday

เอเซีย พลัส มองหุ้นไทยไตรมาส 3 ผันผวนในทิศทางขาขึ้น

26 มิถุนายน 2562

ทุนนอกยังไหลเข้า จับตาทำงบประมาณฯ ล่าช้า อาจกระทบเศรษฐกิจ เปิดโพยหุ้น 4 ธีม 

ทุนนอกยังไหลเข้า จับตาทำงบประมาณฯ ล่าช้า อาจกระทบเศรษฐกิจ เปิดโพยหุ้น 4 ธีม 

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส คาดการณ์แนวโน้มตลาดหุ้นไทยไตรมาส 3 จะแกว่งตัวผันผวนในทิศทางขาขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย (ฟันด์โฟลว์) ที่ยังไหลเข้าต่อเนื่อง ขณะที่การพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่ล่าช้า อาจกระทบการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ เป็นปัจจัยถ่วงตลาด

ทั้งนี้ เมื่อมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ แม้จะเป็นรัฐบาลที่มีคะแนนเสียงสนับสนุนไม่เด็ดขาด อาจมีประเด็นเรี่องเสถียรภาพในการบริหารงาน แต่ก็ถือเป็นพัฒนาการเชิงบวกทางการเมือง

***จับตาทำงบประมาณฯช้ากระทบศก.

ประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญในไตรมาส 3 นี้ คือ การพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2563 ซึ่งน่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏรในเดือน ก.ย. 2562 ถือว่าล่าช้ากว่าทุกปีที่ผ่านมาราว 3 เดือน ซึ่งการพิจารณาที่ล่าช้า อาจมีผลต่อเนื่องไปถึงการเติบโตของเศรษฐกิจไทยได้ เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจไทยต้องการแรงกระตุ้นจากภาคเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก หลังจากภาคการค้าระหว่างประเทศมีปัญหา อันเป็นผลมาจากสงครามการค้าโลก

โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปี 2562-2563 รอบล่าสุดเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ขยายตัว 3.3% และ 3.6% ตามลำดับ ซึ่งต่ำกว่าที่ไอเอ็มเอฟ เคยคาดการณ์ไว้เดิม จากผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ยืดเยื้อ โดยประเด็นที่ต้องติดตามคือการเจรจาของผู้นำทั้ง 2 ประเทศ ว่าจะสามารถหาข้อยุติได้หรือไม่ ในการพบปะกันในการประชุม G20 วันที่ 28-29 มิ.ย.นี้ ที่ญี่ปุ่น

***สงครามการค้ายืดเยื้อ-ดอกเบี้ยโลกผ่อนคลาย

นอกจากนี้ ยังเห็นภาพการกีดกันการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับคู่ค้าอีกในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการที่สหรัฐฯ ตัดสิทธิจีเอสพี กับตุรกีและอินเดีย ทำให้ภาพรวมของสงครามการค้ายืดเยื้อและกระทบความต้องการบริโภคสินค้าโภคภัณฑ์

โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงก่อนหน้านี้ ช่วยลดแรงกดดันจากเงินเฟ้อทั่วโลก ทำให้ธนาคารกลางหลายแห่งหันกลับมาใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่สหรัฐฯ และยุโรป ที่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยชัดเจนในปีนี้ ขณะที่ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ลดดอกเบี้ยไปแล้ว 1 ครั้ง ส่วนอินเดียลดไปแล้ว 3 ครั้ง เป็นต้น

นายเทิดศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับไทยนั้น สายงานวิจัยฯ คาดว่า ดอกเบี้ยทรงตัวหรืออาจปรับลงจากปัจจุบันที่1.75% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก คือส่งออกชะลอตัว ทำให้การขับเคลื่อนมาจากภายในประเทศ คือภาคการบริโภคครัวเรือน ที่จะยังได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชนและภาครัฐ โดยสายงานวิจัยฯ คาดการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2562 ที่ 2.7% ชะลอจาก 4.1%
ในปี 2561

***ลดคาดการณ์กำไรบจ.เหลือโต 5.6 %

บล.เอเซีย พลัส คาดการณ์กำไรตลาดปี 2562 โดยมองแนวโน้มช่วงที่เหลือของปีนี้ จากสถานการณ์สงครามการค้ารุนแรงและยืดเยื้อกว่าที่คาด เริ่มเห็นการปรับลงของประมาณการ จึงได้ปรับลดสมมติฐานกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปี 2562 ลดลงจากเดิม 2.25% มาอยู่ที่ 1.03 ล้านล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ 103.32 บาท เติบโต 5.59% จากปีก่อน

เมื่ออิงกำไรใหม่ ดัชนีเป้าหมายจะอยู่ที่ 1,699 จุด บนสมมุติฐานส่วนต่างอัตราผลตอบแทนระหว่างตลาดพันธบัตรกับตลาดหุ้นที่ 4.28%

อย่างไรก็ตาม นับจากช่วงปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา พบว่ามีแรงหนุนจากเงินทุนเคลื่อนย้ายไหลเข้ามาต่อเนื่อง ผลจากการเมืองในประเทศที่เปลี่ยนผ่านมาสู่การมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง การเพิ่ม NVDR เข้ามาคำนวณในดัชนี MSCI รวมไปถึงหลายธนาคารกลางหันมาใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มมีการเคลื่อนย้ายเงินลงทุน จากพันธบัตรรัฐบาลที่ให้ผลตอบแทนต่ำไปสู่พันธบัตรรัฐบาลที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

***ลุ้นเงินโยกจากตลาดตราสารหนี้มาหุ้น

ในทางกลับกันช่วยหนุนให้ส่วนต่างผลตอบแทนระหว่างพันธบัตรกับตลาดหุ้นไทยกว้างขึ้น ล่าสุดมาอยู่ที่ 4.08% ลักษณะเช่นนี้ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก หนุนให้เงินลงทุนต่างชาติ มีโอกาสถูกโอนถ่ายจากตลาดตราสารหนี้ มา
ยังตลาดหุ้นในระยะถัดไปได้มากขึ้น

ทั้งหมดนี้ได้หนุนให้เกิดการปรับฐานของราคาปิดต่อกำไร(พี/อี เรโช) ให้สูงขึ้นกว่าเป้าหมายเดิมที่ 16.45 เท่า โดยในระยะสั้นอาจขยับขึ้นไปเหนือพี/อี ที่ราว 17 เท่าได้ กลยุทธ์การลงทุนจึงเน้นหุ้นที่มีความได้เปรียบทางด้านมูลค่าหุ้นเมื่อเทียบกับตลาด ดังนี้

· หุ้นที่กำไรเติบโต มีคุณภาพ BBL, BDMS, ROBINS, THANI, GPSC, RJH

· หุ้นได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ CK

· หุ้นที่มีเงินปันผลสม่ำเสมอ ภายใต้ดอกเบี้ยขาลง EASTW, SCCC, MCS

· หุ้นอาหารส่งออก ที่ถูกกระทบจำกัดจากสงครามการค้า TU