posttoday

กลุ่ม KTIS คาดรายได้ขายไฟฟ้าปีนี้โตเกิน 20 %

25 มิถุนายน 2562

นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น หรือกลุ่ม KTIS เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ดำเนินตามกลยุทธ์ที่มุ่งเพิ่มรายได้จากสายธุรกิจชีวภาพ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีสัดส่วนกำไรขั้นต้นสูงและมีความผันผวนของรายได้ต่ำกว่าสายธุรกิจน้ำตาลทรายที่ผันผวนตามราคาน้ำตาลตลาดโลก

นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น หรือกลุ่ม KTIS เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ดำเนินตามกลยุทธ์ที่มุ่งเพิ่มรายได้จากสายธุรกิจชีวภาพ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีสัดส่วนกำไรขั้นต้นสูงและมีความผันผวนของรายได้ต่ำกว่าสายธุรกิจน้ำตาลทรายที่ผันผวนตามราคาน้ำตาลตลาดโลก

โดยครึ่งปีแรกของงบการเงินปี 2562 (ต.ค. 2561 –มี.ค. 2562) สัดส่วนรายได้เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน สายธุรกิจชีวภาพขยับเพิ่มขึ้นจาก 35.8% เป็น 39.2% ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ และในอนาคตก็มีโอกาสที่รายได้จากสายธุรกิจชีวภาพจะสูงกว่าสายธุรกิจน้ำตาล

ทั้งนี้ สายธุรกิจชีวภาพซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล ธุรกิจผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล และธุรกิจผลิตและจำหน่ายเยื่อกระดาษชานอ้อย ในช่วง 6 เดือนแรกของรอบบัญชี 2562 การจำหน่ายเอทานอล มีปริมาณสูงถึง 40.2 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจาก 30.0 ล้านลิตร หรือเพิ่มขึ้น 34.1% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

ส่วนการจำหน่ายไฟฟ้าที่ผลิตจากเชื้อเพลิงชานอ้อยและใบอ้อยสามารถขายได้ 201,845 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นจาก 164,832 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 22.5% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน

ปริมาณการจำหน่ายเอทานอลและพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมากทำให้รายได้จากการขายเอทานอลเพิ่มขึ้น 21.4% และรายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 23.5% สำหรับครึ่งปีแรกของรอบบัญชีสิ้นสุดเดือนมี.ค. 2562 และมั่นใจว่า 2 สายธุรกิจนี้จะสร้างรายได้ที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันการผลิตเอทานอลดำเนินการเต็มกำลังอยู่แล้ว

ในส่วนธุรกิจไฟฟ้ายังมีแนวโน้มที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพให้สามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายได้มากขึ้น จึงเชื่อว่าในรอบบัญชีปี 2562 นี้ รายได้จากสายธุรกิจผลิตไฟฟ้าจะสูงขึ้นกว่าปี 2561ไม่น้อยกว่า 20 %