posttoday

บลจ.ยูโอบี 4 เดือนโต 7 % สูงกว่าอุตสาหกรรม

18 มิถุนายน 2562

น้นกลยุทธ์ขยายธุรกิจตามกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน แนะเพิ่มน้ำหนักลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ

เน้นกลยุทธ์ขยายธุรกิจตามกลุ่มลูกค้า แนะเพิ่มน้ำหนักลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ

นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บลจ. ยูโอบี มีการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (เอยูเอ็ม) ณ สิ้นเดือนเมษายน ปี 2562 โดยมีมูลค่า 224 พันล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 7% ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2562 ในขณะที่อุตสาหกรรมเติบโตเพียง 5% (ที่มา : AIMC ณ เม.ย. 2562)

โดยธุรกิจกองทุนรวม ที่เติบโตกว่า 4 % โดยในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่มีความหลากหลาย ทั้งกองทุนตราสารทุน กองทุนตราสารหนี้ หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ( RMF ) เพื่อเป็นทางเลือกในการจัดสรรพอร์ตการลงทุนและกระจายความเสี่ยง ลดความผันผวนจากสภาวะตลาดการลงทุนโลก และเศรษฐกิจโลกที่มีการชะลอตัว

ทั้งนี้ บลจ. ยูโอบี นำเสนอกองทุนใหม่ทั้งหมด 5 กองทุน ในช่วง 4 เดือนแรก ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ลงทุน โดยมียอดซื้อในช่วงไอพีโอ รวมทุกกองทุนกว่า 3,492 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 30 เม.ย. 2562)

สำหรับกองทุนรวมเดิมของบลจ. ยูโอบี ที่มีการเติบโตโดดเด่นตั้งแต่ต้นปี 2562 ประกอบด้วย 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด โกลบอล ควอลิตี้ โกรท ฟันด์ (UGQG) มี AUM เพิ่มขึ้น 213% (465 ล้านบาท) กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล ไดนามิค บอนด์ ฟันด์ (UDB) มีเอยูเอ็ม เพิ่มขึ้น 67% (1,566 ล้านบาท) และกองทุนเปิด ยูไนเต็ด เฟล็กซิเบิ้ล อินคัม ฟันด์ (UFIN) มี AUM เพิ่มขึ้น 48% (3,048 ล้านบาท) (ข้อมูล ณ สิ้นเดือนเม.ย. 2562)

ทางด้านธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตั้งแต่ต้นปีนั้น ได้รับความไว้วางใจให้บริหาร กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สำหรับลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว (กสจ.) ประเภทกองทุนผสม และได้บริหารเงินลงทุนเพิ่มในส่วนตราสารทุน สำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ทำให้ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีการเติบโตโดยประมาณ 21% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2561

ในส่วนของธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล ได้รับความเชื่อมั่นให้บริหารกองทุนส่วนบุคคล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประเภทกองทุนผสม (ตราสารหนี้ – ตราสารทุน) โดยมุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการทรัพย์สินของกองทุนให้มีผลการดำเนินงานที่ดีและสม่ำเสมอเพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนให้กับผู้ลงทุน ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบลจ. ยูโอบีเสมอมา

ในขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญกับนวัตกรรมที่จะเสริมสร้างความสะดวกให้กับผู้ลงทุน ในการเร่งพัฒนาบริการออนไลน์เพื่อตอบโจทย์ผู้ลงทุนรุ่นใหม่ในโลกดิจิทัล โดยบริการรับชำระเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนด้วยระบบ “QR code” จะพัฒนาเสร็จสิ้นสมบูรณ์ภายในไตรมาส 2 นี้ เพื่อรองรับการชำระค่าซื้อหน่วยลงทุนได้จากธนาคารชั้นนำหลายแห่ง บริการรับชำระค่าซื้อหน่วยลงทุนด้วยระบบ QR Code นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งการพัฒนานวัตกรรมที่ไม่หยุดนิ่งของบลจ. ยูโอบี เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของผู้ลงทุน

นายวนา กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มีแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เน้นการรักษา และดูแลลูกค้าในแต่ละกลุ่มอย่างชัดเจน เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงกับความต้องการและวัตถุประสงค์ในการลงทุนของลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างแท้จริง

อีกทั้งมีการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งในรูปแบบสัมมนาการให้ความรู้ คำแนะนำทางการเงินและกองทุนรวม รวมไปถึงการจัดกิจกรรม ความบันเทิงต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างความหลากหลาย ซึ่งที่ผ่านมาทางบลจ. ยูโอบี ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ามาโดยตลอด

พร้อมกันนี้ มีการทำงานอย่างใกล้ชิด และได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มบลจ.ยูโอบี ประเทศสิงคโปร์ และในภูมิภาคเอเชีย ในการกำหนดกลยุทธ์ แนวทางในการดำเนินธุรกิจในระดับต่างๆ บนพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาลที่ดี โปร่งใส รวมถึงด้านจรรยาบรรณ และความรับผิดชอบต่อสังคม

นอกจากนี้ ยังมีการจับมือร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกเพื่อนำเสนอทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายแก่ผู้ลงทุน ในสภาวะการณ์ต่างๆ ทำให้กลุ่มบลจ.ยูโอบี มีการเติบโตในระดับภูมิภาคอย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีแผนการพัฒนานวัตกรรมในด้านต่างๆเพื่อผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง 

ด้านแนวโน้มเศรษฐกิจ และการลงทุน ขณะนี้ บลจ. ยูโอบีมองว่าสภาวะการลงทุนทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ ซึ่งประเด็นหลักมาจากเรื่องสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่มีท่าทีว่าจะยืดเยื้อต่อไปอีก ล่าสุดสหรัฐฯพร้อมขึ้นอัตราภาษีนำเข้าจากจีนอีก หากจีนไม่ให้ความร่วมมือ

ส่วนรัฐบาลจีนได้ออกมากล่าวเตือนบริษัทเทคโนโลยีต่างๆให้เตรียมรับมือถึงผลกระทบระยะยาว หากบริษัทเหล่านี้ยกเลิกการทำธุรกิจกับบริษัทจีน ตามคำสั่งของประธานาธิบดี่ทรัมป์ จากประเด็นดังกล่าวมีผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ที่ทำให้สามารถเติบโตได้ในระดับปานกลางแต่มีแนวโน้มชะลอตัวลง และส่งผลให้ตลาดทุนมีความผันผวนสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางในประเทศต่างๆเล็งเห็นถึงความเสี่ยงของการเจรจาการค้า จึงเริ่มดำเนินการผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน โดยตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯอาจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้งในปีนี้

น.ส.รัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ กล่าวถึงมุมมองการลงทุนของบลจ. ยูโอบี ว่า ความรุนแรงจากภาวะสงครามการค้าอาจเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งต้องติดตามดูว่าจีนจะตอบโต้การขึ้นภาษีและการแบนบริษัทจีนในการทำธุรกิจกับบริษัทของสหรัฐฯอย่างไร ตลาดหุ้นจะผันผวนตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วง ทำให้การให้น้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการลดความเสี่ยงและความผันผวน

ทางด้านหุ้น แนะนำลงทุนในกองทุนที่มีการกระจายตัวของสินทรัพย์ และเน้นหุ้นคุณภาพสูงเป็นหลัก สำหรับการลงทุนในรายประเทศหรืออุตสาหกรรมเฉพาะตัว จะมีความผันผวนสูงแต่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นได้ในจังหวะการลงทุนที่ถูกต้อง จึงเหมาะสำหรับการลงทุนแบบยืดหยุ่นที่จัดสรรการลงทุน ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การลงทุนระยะยาว และแสวงหาโอกาสในการลงทุนช่วงสั้นถึงกลาง 

ทั้งนี้ บลจ. ยูโอบี ได้คัดสรรกองทุน 6 กองทุนเพื่อครอบคลุมโอกาสการลงทุนที่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ดังนี้

 

1) กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ (UGIS) ระดับความเสี่ยงกองทุน 5 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่แสวงหาโอกาสรับรายได้แบบสม่ำเสมอ และลดความเสี่ยงจากปัจจัยดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลง กองทุนจะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ PIMCO GIS Income Fund (Class I) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80 % ของมูลทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และเน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพ มีนโยบายกระจายการลงทุนไปยังตราสารหนี้ที่หลากหลาย การป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ไม่น้อยกว่า 90% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ

 

2) กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล ไดนามิค บอนด์ ฟันด์ (UDB) ระดับความเสี่ยงกองทุน 6 ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ The Jupiter Global Fund – Jupiter Dynamic Bond (Class I) (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไมน้อยกว่า 80 % ของมูลค่าทรัพยสินสุทธิของกองทุน เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศที่สามารถลงทุนได้ทั่วโลก และสามารถลงทุนได้ในระยะปานกลางถึงระยะยาว 

 

3) กองทุนเปิด ยูไนเต็ด เฟล็กซิเบิ้ล อินคัม ฟันด์ (UFIN) ระดับความเสี่ยงกองทุน 6 ลงทุนในหลักทรัพย์และทรัพย์สินทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษัทจัดการจะพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์และทรัพย์สินแต่ละประเภทในสัดส่วนตั้งแต่ 0-100 % ของเอ็นเอวีกองทุน และกองทุนจะนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 79 % ของเอ็นเอวีกองทุน

 

กองทุน UFIN เน้นกระจายการลงทุนในสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ในทุกภูมิภาคทั่วโลก ผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 4 แห่งทั้งในและนอกประเทศ กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

 

4) กองทุนเปิด ยูโอบี หุ้นระยะยาว ชนิดไม่จ่ายเงินปันผล (UOBLTF) และกองทุนเปิด ยูโอบี หุ้นระยะยาว ชนิดจ่ายเงินปันผล (UOBLTF-D) ระดับความเสี่ยงกองทุน 6 กองทุนจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียน โดยมีฐานะการลงทุนสุทธิในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 65 % ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนรวม เงินส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนในตราสารทางการเงิน และ/หรือ ตราสารแห่งหนี้ต่างๆ โดยจะมุ่งเน้นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง

 

5) กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล ควอลิตี้ โกรท ฟันด์ (UGQG) ระดับความเสี่ยงกองทุน 6 กองทุนจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ United Global Quality Growth Fund (Class USD Acc) (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนหลักเป็นกองทุนที่จัดตั้งและบริหารจัดการโดยบลจ.ยูโอบี (สิงคโปร์) ลงทุนในหุ้นคุณภาพที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง มีงบดุลที่แข็งแกร่ง เพื่อโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว 

 

6) กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ไดนามิค บอนด์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น ฟันด์ 3Y2 (UDBC3Y2) ระดับความเสี่ยงกองทุน 5 (กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูง หรือซับซ้อน - ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนนี้ได้ในช่วงเวลา 3 ปีแรกนับจากวันจดทะเบียนกองทุนได้ ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียการลงทุนจำนวนมาก)

ทั้งนี้ กองทุน UDBC3Y2 เสนอขายครั้งแรกในวันที่ 17 – 25 มิ.ย. 2562 กองทุนตราสารหนี้ ที่แบ่งโครงสร้างการลงทุนของกองทุนออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนที่ 1) ซี่งเป็นส่วนของเงินต้น กองทุนจะกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก อายุประมาณ 3 ปี โดยมีกลยุทธ์การลงทุนครั้งเดียวเพื่อช่วยลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง และส่วนที่ 2 กองทุนจะลงทุนในสัญญาวอร์แรนท์ ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุน Jupiter Dynamic Bond L EUR Acc ซึ่งกองทุนถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันความเสี่ยงตลาดขาลง ในขณะที่ยังคงมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในตราสารหนี้