นายกระทิงและหญิงฟลอร์ : จัดพอร์ตสายกลาง

สัปดาห์นี้พายุยังแรง กูรูแนะยึดหลักจัดพอร์ตสายกลาง หุ้นไทย 45 % หุ้นต่างประเทศ 15 % ตราสารหนี้ 35 % รีท-ทองคำ 10 %

คอลัมน์ นายกระทิงและหญิงฟลอร์

.............................................................

การลงทุนช่วงนี้ต้องบอกว่าเซียนยังถอดใจ เช่นกัน ทิศทางตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ยังถูกปกคลุมด้วยประเด็นความกังวลเรื่องสงครามการค้าซึ่งเหล่านักวิเคราะห์มองว่ายังไม่สามารถคาดการณ์ผลสรุปรวมถึงกรอบเวลาที่ชัดเจนได้

.

นอกจากนี้ยังมีประเด็นความขัดแยังในตะวันออกกลางเข้ามาเป็นแรงกดดันเพิ่มภาวะดังกล่าวประกอบกับสัญญาณเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่กลับมาอยู่ในช่วงทรงหรือปรับลดลงทำให้การเคลื่อนย้ายเม็ดเงินลงทุนยังคงเป็นการไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยเฉพาะอย่างยิ่งพันธบัตร

.

ภายใต้สถานการณ์ทที่ปกคลุมด้วยปัจจัยลบดังที่กล่าวข้างต้น บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส แนะนำกลยุทธ์จัดพอร์ต โดยยังให้น้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้รวม 35 % แยกเป็นกองทุนตลาดเงิน หรือมันนี่ มาร์เก็ต ฟันด์ 15% และตราสารหนี้อื่นๆ 20 %

.

ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ประเด็นที่อยู่ในความสนใจอยู่ที่การจัดตั้งรัฐบาลซึ่งน่าจะเห็นความชัดเจนเรื่องนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์นี้ ขณะที่ Valuation อยู่ในเกณฑ์ที่น่าสนใจจึงคงน้ำหนักการลงทุนในพอร์ตหุ้นไทยไว้ที่ 40 % เน้นหุ้นอิงกำลังซื้อในประเทศ ที่สามารถจ่ายเงินปันผลได้

.

สำหรับหุ้นต่างประเทศยังมีโอกาสที่จะผันผวนอยู่ได้มากแต่น้ำหนักการลงทุนที่จัดสรรไว้ 15 % ยังถือว่ามีความเหมาะสมโดยตัวเลือกที่ปลอดภัยอาจเป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (รีท) หรือกองทุนรวมที่ลงทุนในทองคำซึ่งเชื่อว่าจะสามารถชนะตลาดได้ส่วนการลงทุนในตราสารทางเลือกอื่นๆเลือกเป็น FCN ด้วยน้ำหนัก 10 %โดยการเลือกหุ้นจะเน้นหุ้นที่พื้นฐานแกร่งผันผวนไม่มากอย่างน้อย 2 บริษัทและเสริมด้วยหุ้นที่มีความผันผวนผวนสูงแต่ราคาหุ้นได้ปรับลดลงมากแล้ว

.

อย่างไรก็ดีมีบทพิสูจน์ชัดว่า "การจัดพอร์ตสายกลาง" หรือความเสี่ยงปานกลางสามารถฝ่าพายุแรง หรือ ปัจจัยลบที่ถาโถม สัปดาห์ที่ผ่านมาปัจจัยภายนอกทั้งประเด็นสงครามการค้า และราคาน้ำมันที่ปรับฐานแรงยังกดดันตลาดหุ้นโลกปรับฐานต่อ -1.82% เช่นเดียวกับไทยที่ลดลง -0.31%

.

บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า พอร์ตการลงทุนความเสี่ยงปานกลางยังทำผลตอบแทนได้ดีแถมบวก 0.02% ชนะ Benchmark -0.55% เนื่องจากมีการปรับเพิ่มน้ำหนักในสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้นทั้งเพิ่มน้ำหนักกองทุนตลาดเงิน 10% รวมถึงเพิ่มการลงกองทุนอสังหาริมทรัพย์ M-PROPDIV บวก 0.91% รวมถึงคัดสรรเลือกหุ้นในการลงทุนหุ้นไทยทำได้ดีมากเนื่องจากเน้นหุ้นในประเทศ ที่จ่ายปันผลสูง เช่น EASTW DRT INTUCH และ FPT ปรับตัวเพิ่มขึ้นและ Outperform ตลาดได้เป็นอย่างดี

.

รับมือกันดี ๆนายกระทิงและหญิงฟลอร์ ห่วงใยด้วยใจ แนวโน้มสัปดาห์นี้ บล.เอเซีย พลัส คาดว่าดัชนีจะมีแนวต้านด่านแรกที่ 1,630 จุดและ 1,650 จุด หากผ่านโซนนี้ขึ้นไม่ได้ยังดูเสี่ยงที่จะถอยหลังกลับมาโดยมีแนวรับที่โซน 1,600 จุดอีกครั้ง

 

...ขอให้สัปดาห์นี้เป็นช่วงเวลาแห่งโอกาสสำหรับผู้กล้า แต่อย่าทุ่มสุดตัว ให้ยึดหลักกระจายความเสี่ยงของพอร์ต