เทรนด์คนยุคใหม่กับโมบายเพย์เมนต์

คอลัมน์ คุยเฟื่องเรื่องลงทุน

เทรนด์คนยุคใหม่กับโมบายเพย์เมนต์

โดย... ณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์

.............................................................................

หลายท่านคงคุ้นหูกับคำว่า Mobile Payment กันนะครับ ซึ่ง Mobile Payment หรือ “กระเป๋าเงินดิจิตอล” คือ การทำธุรกรรมการชำระเงินผ่านเครือข่ายของระบบโทรศัพท์มือถือ โดยใช้สมาร์ทโฟนเพื่อเป็นตัวกลางในการชำระค่าสินค้า หรือบริการต่างๆ โดยเงื่อนไขในการเปิดใช้บริการนั้นจำเป็นต้องทำการลงทะเบียนขอใช้บริการกับทางผู้ให้บริการก่อน หลังจากนั้นระบบจะทำการเชื่อมโยงบัญชีของเราเข้ากับเบอร์โทรศัพท์ถือเป็นอันเสร็จสิ้น และยังสร้างความสะดวกให้กับผู้บริโภคเป็นอย่างมาก

ทุกวันนี้เราจะเห็นว่าร้านค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ร้านสะดวกซื้อ หรือแม้กระทั่งตามร้านอาหาร เริ่มมีป้ายรับจ่ายเงินผ่านทาง Alipay หรือ WeChat Pay ซึ่งเป็นระบบการจ่ายเงินผ่าน Application Mobile Payment ด้วยระบบออนไลน์ที่รองรับทั่วโลก ซึ่งนับว่าเป็นระบบชำระเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน เราอาจจะสงสัยว่าการเพิ่มช่องทางการจ่ายเงินเหล่านี้มีความสำคัญต่อนักเที่ยวจีนขนาดนั้นเลยหรือ เรามาดูกันครับ

แรกเริ่มเดิมทีนั้น Mobile Payment ในจีนเกิดขึ้นมาได้จากการที่ผู้คนไม่กล้าที่จะซื้อของออนไลน์ เนื่องจากไม่มีความเชื่อถือต่อร้านค้า ไม่ต้องการที่จะจ่ายเงินล่วงหน้าเวลาจะทำการสั่งของหรือแม้กระทั่งใส่เลขบัตรเครดิตไว้บนเว็บไซต์เนื่องจากไม่มั่นใจต่อระบบความปลอดภัยของเว็บไซต์ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาอย่างมากของ Ecommerce ช่วงแรกในประเทศจีน

Alipay จึงเกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ โดย Alipay จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างร้านค้าและผู้ซื้อโดยที่ร้านค้าจะได้รับเงินเมื่อร้านค้าส่งของให้กับผู้ซื้อเสร็จเรียบร้อยแล้วเท่านั้น ซึ่งทำให้ผู้คนมีความมั่นใจที่จะใช้จ่ายออนไลน์มากขึ้น จึงส่งผลให้ E-commerce ในจีนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างในปัจจุบัน

นอกจากนั้น Alipay ยังมีการนำเทคโนโลยี QR Code มาใช้ทำให้เป็นได้มากกว่าการจ่ายเงินให้กับร้านค้าออนไลน์ เพราะยังใช้จ่ายค่าสินค้าและบริการให้กับร้านค้าทั่วไปเพียงแค่สแกน QR Code เท่านั้น ทำให้ประชากรจีนสามารถใช้ทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างสะดวกมากขึ้น

ด้วยเหตุนี้ Mobile Payment จึงเป็นที่แพร่หลายอย่างมากในประเทศจีน ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน Alipay กว่า 500 ล้านคนต่อเดือน และมีการใช้ WeChat Pay ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของ Alipay กว่า 900 ล้านคนต่อเดือน จะเห็นได้ว่าแทบจะทุกคนในจีนเลยทีเดียวที่มีการใช้ Mobile Payment ในการใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการ

หลายท่านอาจสงสัยว่าเมื่อรู้อย่างนี้แล้วมันจะมีผลต่อการลงทุนในบ้านเราอย่างไรบ้าง จากการทำการสำรวจร่วมกันของ Nielsen พบว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ชาวจีนเลือกมาเที่ยวอันดับ 4 เลยทีเดียว ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในปี 2561 มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาประเทศไทยเป็นจำนวน 10.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.4% จากปีก่อน และสร้างรายได้กว่า 5.8 แสนล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 11.5% จากปี 2560 นับว่าเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของประเทศไทยเลยทีเดียว

จากการสำรวจของ Nielsen ยังพบว่านักท่องเที่ยวจีนจะใช้เงินในการท่องเที่ยวไปกับการซื้อสินค้าถึง 25% สูงกว่านักท่องเที่ยวประเทศอื่นๆ ที่มีสัดส่วนการใช้จ่ายซื้อสินค้าเพียง 15% ของค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว 1 ครั้ง โดยแหล่งซื้อสินค้าที่สำคัญของชาวจีนก็หนีไม่พ้นร้านขายสินค้าปลอดภาษีและห้างสรรพสินค้านั่นเอง

ในการสำรวจยังพบว่า ถ้าร้านค้ารับการชำระเงินด้วย Mobile Payment อย่าง Alipay และ WeChat Pay นักท่องเที่ยวจีน 93% จะเลือกใช้ Mobile Payment แทนการใช้เงินสดหรือบัตรเครดิต และนักท่องเที่ยวถึง 91% อาจซื้อสินค้าและบริการเพิ่มถ้าหากมีการรับ Mobile Payment ของจีน

นอกจากนี้พบว่า 92% จะพิจารณาซื้อสินค้าและบริการจากร้านที่รับ Alipay มากกว่าร้านที่ไม่รับ ซึ่งจะเห็นได้ว่าการเพิ่มช่องทางการจ่ายเงินอย่าง Mobile Payment นอกจากจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนให้เข้าร้านเพิ่มมากขึ้น ยังเปิดโอกาสให้ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร และผู้ให้บริการต่างๆ ในประเทศไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นตามยอดการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวจีน

ธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวงการ Mobile Payment สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 บทบาทใหญ่ๆ ได้แก่

1. ธนาคาร ด้วยการออกบริการ Mobile Banking เพื่อเป็นช่องทางการทำธุรกรรมตลอด 24 ชั่วโมง

2. ผู้ให้บริการระบบมือถือ ที่สร้างมาตรฐานการจ่ายเงินด้วยมือถือของตัวเอง

3. บริษัทบัตรเครดิต ที่ตั้งบริษัทมาดูแลธุรกิจด้านนี้โดยเฉพาะ เช่น อเมริกันเอ็กซ์เพรส เปิดบริษัท Payfone ส่วนมาสเตอร์การ์ดออกบริการ Pay Pass

4. บริษัทธุรกิจอินเทอร์เน็ตและระบบจ่ายเงินออนไลน์ สร้างระบบจ่ายเงินของตัวเองไม่ว่าจะเป็น Google Wallet, PayPal,Apple

5. ธุรกิจหน้าใหม่ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมการจ่ายเงินใหม่ ๆ เช่น เครื่องรูดบัตรเครดิตด้วยมือถือ ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมเปิดบัญชี แต่คิดเงินจากการใช้รูดบัตรอัตราเดียวไม่ว่าเงินจำนวนเท่าไร เป็นต้น

แต่อย่างไรก็ตามการการใช้บริการ Mobile Payment ก็ยังต้องมีความเสี่ยงนะครับ ผู้ใช้บริการควรหลีกเลี่ยงการตั้ง PIN/Password ที่ง่ายต่อการคาดเดา และต้องเก็บรักษา User ID และ Password ให้เป็นความลับส่วนบุคคล พร้อมทั้งเปลี่ยน Password เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง และไม่ควรละเลย SMS หรืออีเมลที่ได้รับจากธนาคาร และควรตรวจสอบยอดเงินคงเหลือทุกครั้งที่มีการชำระเงิน เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง