posttoday

บลจ.ธนชาต เปิดขายกองทุน SET50 แบบไม่จ่ายปันผล

15 พฤษภาคม 2562

นายวรินทร ขาวละออถ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายการตลาดตัวแทนจำหน่าย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกกองทุนเปิดธนชาต SET50 สะสมมูลค่า หรือ T- SET50Acc เป็นกองทุนที่ลงทุนในดัชนี SET50 เปิดเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ ) ตั้งแต่วันนี้ - 22 พ.ค.นี้ ลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท และหากลงทุนช่วงเสนอขายครั้งแรก จะไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อ-ขาย และค่าใช้จ่ายในการซื้อหลักทรัพย์จะได้รับการยกเว้น

นายวรินทร ขาวละออถ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายการตลาดตัวแทนจำหน่าย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกกองทุนเปิดธนชาต SET50 สะสมมูลค่า หรือ T- SET50Acc เป็นกองทุนที่ลงทุนในดัชนี SET50 เปิดเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ ) ตั้งแต่วันนี้ - 22 พ.ค.นี้ ลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท และหากลงทุนช่วงเสนอขายครั้งแรก จะไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อ-ขาย และค่าใช้จ่ายในการซื้อหลักทรัพย์จะได้รับการยกเว้น

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบลจ.ธนชาต มีกองทุนดัชนี SET50 อยู่แล้ว 1 กองทุน คือ กองทุน T-SET50 ที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 2 ครั้ง ซึ่งจัดตั้งเมื่อเดือนก.ค. 2555 และพบว่าในช่วง 7 ปีที่ ผ่านมา มีผู้สนใจลงทุนกองทุนนี้อย่างต่อเนื่อง และเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับการลงทุนในช่วงนี้เป็นช่วงที่ตลาดหุ้นต่างประเทศค่อนข้างได้รับความกดดันจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่ประกาศใช้มาตรการด้านภาษีตอบโต้ระหว่างกัน ซึ่งคาดว่าจะยืดเยื้อและเป็นปัจจัยกดดันตลาดต่อไปอีกสักระยะ ประกอบกับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ผลตอบแทนตลาดต่างประเทศปรับขึ้นมาอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นเมื่อมีปัจจัยเรื่องนี้มากระทบจึงทำให้ตลาดปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง

จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ทิศทางตลาดหุ้นไทยในระยะนี้ค่อนข้างซึมลงชัดเจนเช่นกัน แต่มองว่าช่วงนี้สามารถเริ่มทยอยเข้าสะสมในหุ้นไทยได้ เนื่องจากปัจจุบันดัชนีหุ้นไทย อยู่ที่ 1,630 จุด ซึ่งใกล้เคียงกับแนวรับสำคัญที่คาดไว้คือ 1,600 - 1,620 จุด และปัจจัยจากต่างประเทศมีผลกระทบกับหุ้นไทยค่อนข้างน้อย ในทางหนึ่ง คือ ไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งโดยตรง และตั้งแต่ต้นปีตลาดไทยเองก็ปรับตัวขึ้นมาไม่มากเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ทำให้ตลาดไทยซึมลงเล็กน้อยเท่านั้น

นอกจากนั้น บลจ.ธนชาต มองว่าตัวเลขเศรษฐกิจของไทยส่งสัญญาณชะลอตัว ดังนั้นเชื่อว่าเมื่อได้รัฐบาลใหม่ รัฐบาลจำเป็นจะต้องออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจล๊อตใหญ่อย่างแน่นอน และปัจจัยที่ตลาดรับรู้ไปแล้ว อย่างเรื่อง MSCI นั้น ก็คาดว่าจะมีเงินเข้ามาซื้อหุ้นไทยจากการปรับน้ำหนักเพิ่มของดัชนี MSCI เป็นจำนวน 8 หมื่นล้านบาท ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนพ.ค.ถึงต้นเดือนมิ.ย.นี้

ทั้งนี้ บลจ.ได้มองกรอบของหุ้นไทยอยู่ที่ 1580 - 1740 จุด และในกรณีที่สงครามการค้าเลวร้ายไปกว่านี้ก็คิดว่าไม่น่าหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,520 จุด