posttoday

ตลาดหุ้นไทยติดอันดับโลก

18 เมษายน 2562

PwC เผยผลสำรวจไทย ติด 1 ในตลาดชั้นนำที่คาดการณ์ว่าจะมีบริษัทเข้ามาระดมทุนมากที่สุดในโลกในปี 2573

PwC เผยผลสำรวจไทย ติด 1 ในตลาดชั้นนำที่คาดการณ์ว่าจะมีบริษัทเข้ามาระดมทุนมากที่สุดในโลกในปี 2573

นายบุญเลิศ กมลชนกกุล หัวหน้าสายงาน Clients and Markets และหุ้นส่วนสายงานตรวจสอบบัญชี ด้านธุรกิจบริการทางการเงิน บริษัท PwC ประเทศไทย เปิดเผยถึงรายงาน Capital Markets in 2030 ที่ทำการสำรวจโดย The Economist Intelligence Unit ในนามของ PwC คาดว่า ตลาดหุ้นในโลกที่นักลงทุนสนใจพิจารณาลงทุนมากที่สุดในปี 2573 นอกเหนือจากตลาดในประเทศของตนเอง ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ( NYSE) ที่ 37% ตามมาด้วยตลาดหุ้นแนสแด็ก ( NASDAQ) ที่ 26% ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ( LSE) ที่ 24% และ ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) ที่ 24% เท่ากัน

ผลสำรวจยังพบอีกว่า การลงทุนหุ้นนอกตลาด กำลังเป็นตัวเลือกของการระดมทุนที่ได้รับความสนใจจากบริษัทหลายแห่ง ด้านตลาดหุ้นไทยติดอันดับตลาดหุ้นที่จะมีบริษัทเข้ามาระดมทุนสูงที่สุดของโลก ร่วมสะท้อนความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายบุญเลิศ กล่าว ในส่วนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถือได้ว่าเป็นแหล่งระดมทุนที่บริษัททั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ให้ความสนใจ เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตให้ธุรกิจ ซึ่งข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2552-2561) มีบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ทั้งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) จำนวนทั้งสิ้น 305 บริษัท มีมูลค่าระดมทุนถึง 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 7.7 แสนล้านบาท

"สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างที่พบจากผลสำรวจ คือ การที่ตลาดหลักทรัพย์ของไทย ติด 1 ในตลาดชั้นนำที่ถูกคาดการณ์ว่า จะมีบริษัทเข้ามาระดมทุนมากที่สุดในโลกในปี 2573 เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านในอาเซียน อย่าง ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และ ตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย "

นายบุญเลิศ มองว่า ตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจไม่แพ้ตลาดอื่นๆ เพราะเป็นแหล่งเงินทุนที่ให้ต้นทุนทางการเงินที่ถูก สภาพคล่องในการซื้อขายถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่วนหนึ่งเพราะคนไทยมีความรู้ทางการเงินเพิ่มขึ้นและหันมาลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้นกว่าในอดีต

นอกจากนี้ กฎระเบียบต่างๆ ของหน่วยงานกำกับดูแล ก็ได้มีการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลักทรัพย์ที่เข้ามาจดทะเบียนนั้นมีคุณภาพมากขึ้น ผมเชื่อว่า ในระยะยาวตลาดหุ้นไทยจะยิ่งดึงดูดการลงทุนของบริษัททั้งในและนอกประเทศ นอกจากนี้ แผนการสร้างตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ก็น่าจะช่วยเปลี่ยนผ่านองค์กรไปสู่ดิจิทัลและสร้างความน่าสนใจให้กับตลาดหุ้นไทยโดยรวมได้มากขึ้นด้วย

สำหรับรายงานฉบับนี้ ได้สำรวจผู้บริหารจำนวนเกือบ 400 รายทั่วโลกเกี่ยวกับมุมมองต่อปัจจัยที่สะท้อนถึงการพัฒนาตลาดทุนทั่วโลก ต่อเนื่องจากรายงานที่จัดทำขึ้นเมื่อปี 2554 โดยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ยังพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจากคราวก่อนที่ผู้ถูกสำรวจคาดว่า ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ จะเป็นแชมป์ตลาดหุ้นที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในปี 2568 ตามมาด้วย ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ตลาดหลักทรัพย์อินเดีย และ ตลาดหลักทรัพย์บราซิล (Bovespa)