posttoday

หุ้นไทยได้แรงซื้อภาคบ่ายปิดตลาดบวก 3.70จุด

05 มีนาคม 2562

หุ้นไทย 5 มี.ค.ปิดที่ระดับ 1,639.00 จุด เพิ่มขึ้น 3.70 จุด มูลค่าการซื้อขาย 41,234.20 ล้านบาท

หุ้นไทย 5 มี.ค.ปิดที่ระดับ 1,639.00 จุด เพิ่มขึ้น 3.70 จุด มูลค่าการซื้อขาย 41,234.20 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบในการซื้ขายช่วงเช้าก่อนจะมีแรงซื้อกลับมาในภาคบ่ายหนุนให้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกก่อนปิดที่ระดับ 1,639.00 จุด เพิ่มขึ้น 3.70 จุด (+0.23%) มูลค่าการซื้อขาย 41,234.20 ล้านบาท โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,641.56 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,629.55 จุด

นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยคาดหวังเชิงบวกต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศที่จะมีความชัดเจนขึ้น หลังศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดียุบพรรคไทยรักษาชาติในวันที่ 7 มี.ค.นี้ หากมีการยุบพรรคก็จะทำให้ภาพการเมืองหลังการเลือกตั้งน่าจะได้รัฐบาลผสม และมีโอกาสที่รัฐบาลชุดเดิมจะได้กลับมาทำหน้าที่ซึ่งก็จะมีความต่อเนื่องในโครงการลงทุนต่าง ๆ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นที่เกี่ยวข้องทั้ง AMATA , WHA , CK , STEC เข้ามาคึกคัก

ส่วนการกลับเข้ามาลงทุนของต่างชาติ คาดว่าน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นหลังการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. หลังจากที่ในช่วง 6 ปีต่างชาติขายหุ้นไทยออกไปเกือบ 6.8 แสนล้านบาท ซึ่งหากการเมืองมีความชัดเจนก็เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติจะพลิกกลับมาเป็นผู้ซื้อในตลาดหุ้นไทย

ส่วนแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.) คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวขึ้นแต่อยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนยังให้ความระมัดระวังการเข้าลงทุนและยังจับตาคำวินิจฉัยคดียุบพรรคในวันที่ 7 มี.ค.นี้ ขณะที่การขึ้นเครื่องหมาย XD หุ้น PTT ในวันพรุ่งนี้ อาจจะมีผลกดดันต่อดัชนีราว 1-2 จุด โดยมองกรอบแนวรับที่ 1,635 และแนวต้านที่ 1,650 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

TOP มูลค่าการซื้อขาย 2,290.82 ล้านบาท ปิดที่ 72.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,988.31 ล้านบาท ปิดที่ 48.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,662.81 ล้านบาท ปิดที่ 67.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,444.36 ล้านบาท ปิดที่ 69.00 บาท ลดลง 2.25 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,339.75 ล้านบาท ปิดที่ 122.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท