หุ้นไทย25ม.ค.62ปิดบวก9.09จุดรับผล Fund Flow
หุ้นไทยปิด1,623.62บวก3.09จุดมูลค่า55,248.53ลบ.CPALL,PTTGC,PTT,IVL,SCB
หุ้นไทยปิด1,623.62บวก3.09จุดมูลค่า55,248.53ลบ.CPALL,PTTGC,PTT,IVL,SCB
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดัชนีปิดที่ระดับ 1,623.62 จุด เปลี่ยนแปลง +3.09 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,248.53 ล้านบาท
สำหรับ5อันดับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด
1.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 5,608,627.70 ล้านบาท ปิดที่ 77.25 บาท เปลี่ยนแปลง +0.25 (+0.32%)
2.PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 4,634,506.72 ล้านบาท ปิดที่ 67.00 บาท เปลี่ยนแปลง -2.00 (-2.90%)
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,358,007.52 ล้านบาท ปิดที่ 48.75 บาท เปลี่ยนแปลง -0.25 (-0.51%)
4.IVL มูลค่าการซื้อขาย 2,020,994.18 ล้านบาท ปิดที่ 46.25 บาท เปลี่ยนแปลง -1.50 (-3.14%)
5.SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,751,706.70 ล้านบาท ปิดที่ 130.50 บาท เปลี่ยนแปลง +0.50 (+0.38%)
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกกัน รับผลจาก Fund Flow ไหลเข้ามาในเอเชีย หลังจากที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินในเอเชียที่เริ่มแข็งค่าขึ้น
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราในระหว่างทางก็มีเผชิญแรงขายทำกำไรบ้างหลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นมาพอควร แต่ก็ได้แรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากการเลือกตั้งที่ชัดเจนขึ้นทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความมั่นใจมากขึ้น เพราะหลังการเลือกตั้งแล้วภาคเอกชนก็น่าจะกล้าลงทุน อีกทั้งยังเชื่อว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดด้วย ดังนั้นจึงได้เข้ามาเก็งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายกิติชาญ กล่าวว่า ตลาดฯน่าจะปรับตัวขึ้นต่อไปได้ จาก Fund Flow ที่ไหลเข้ามา พร้อมให้ติดตามความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งสหรัฐฯว่าจะยังมีการเจรจาอยู่ ส่วนการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ของสหรัฐฯไม่น่าจะมีผลต่อดัชนีฯ และให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยสัปดาห์หน้าจะมี SCC และ PTTEP ที่จะประกาศงบฯออกมา รวมถึงให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 29-30 ม.ค.นี้ ซึ่งก็คาดว่าเฟดน่าจะพูดในเชิงชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และติดตามเรื่องร่างข้อตกลงการถอนตัวของอังกฤษจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (Brexit)
พร้อมให้แนวรับ 1,610-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,635-1,650 จุด