posttoday

ต่างชาติทิ้งหุ้นไทยทุบสถิติ

21 พฤศจิกายน 2561

หุ้นไทยไปไม่ถึง 2,000 จุด ต่างชาติเทขาย ทำสถิติถูกขายสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2556 พิษสงครามการค้า

หุ้นไทยไปไม่ถึง 2,000 จุด ต่างชาติเทขาย ทำสถิติถูกขายสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2556 พิษสงครามการค้า

ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยปิดตลาดวันที่ 20 พ.ย. 2561 ที่ 1,612.03 จุด ลดลง 24.45 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายเบาบางเพียง 36,386.61 ล้านบาท ต่างชาติ ขาย 2,181.62 ล้านบาท สถาบัน ขาย 1,540.32 ล้านบาท พอร์ต บล.ซื้อ 75.99 ล้านบาท รายย่อยซื้อ 3,645.96 ล้านบาท ทั้งนี้แรงขายของต่างชาติยังไม่หยุดนับจากต้นปีถึงปัจจุบันขายหุ้นไทยออกแล้ว 2.8 แสนล้านบาท

ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส (ASP) เปิดเผยว่า การที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดในงวดไตรมาส 3 ปี 2561 เป็นปัจจัยกดดันทำให้เม็ดเงินชะลอการไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันถือเป็นปีที่หุ้นไทยถูกขายหนักที่สุดนับตั้งแต่มีการส่งสัญญาณลดมาตรการกระตุ้นเชิงปริมาณ (QE) เมื่อปี 2556 เป็นต้นมา และยอดขายสุทธิในหุ้นไทยนับตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบันของต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 6.11 แสนล้านบาทแล้ว

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ กล่าวว่า เป้าหมายหุ้นไทยปีหน้า 1,850 จุด และไม่น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงระดับ 2,000 จุดได้แล้ว เพราะผลกระทบการกีดกันการค้า ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จะโตในระดับ 5-10% ไม่ได้ร้อนแรงเหมือน 10 ปีก่อนที่โต 30-40%

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต กล่าวว่า ธนชาตให้เป้าดัชนีปีหน้าที่ 1,620-1,850 จุด และมองระดับต่ำสุดที่ 1,520 จุด เพราะได้รับผลกระทบ จากปัจจัยต่างประเทศ

บลูมเบิร์ก รายงานว่า นักลงทุนต่างชาติเทขายสุทธิหุ้นไทยทั้งหมด 8,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.86 แสนล้านบาท) นับตั้งแต่ต้นปีนี้ คิดเป็นมูลค่าการเทขายมากที่สุดตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 90 อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับประเทศตลาดเกิดใหม่อื่นๆ แล้ว ไทยเป็นแหล่งลงทุนปลอดภัย โดยค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเพียง  1.3% เมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ และดัชนีเอ็มเอสซีไอของไทย ติดลบ 2.6% เมื่อเทียบหุ้นกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่โดยรวมที่ร่วงหนักกว่า 10%