หุ้นไทยแกว่งแคบปิดภาคเช้าร่วง3.86จุด

หุ้นไทยแกว่งแคบปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,664.66 จุด ลดลง 3.86 จุด มูลค่าการซื้อขาย 12,047.09 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้าก่อนปิดที่ระดับ 1,664.66 จุด ลดลง 3.86 จุด (-0.23%) มูลค่าการซื้อขาย 12,047.09 ล้านบาท โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,673.42 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,663.44 จุด

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ค่อนข้างแกว่งแคบคล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดฯยังได้แรงประคองจากปัจจัยในประเทศในเรื่องความคืบหน้าทางการเมืองที่มีความชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง แต่ปัจจัยนอกประเทศยังมีความไม่แน่นอนอยู่ อย่างเรื่องของฝั่งยุโรปที่งบประมาณขาดดุลของอิตาลีก็ยังไม่ได้รับการยอมรับจากสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งยังต้องติดตามดูต่อไปว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง นอกจากนี้ยังต้องติดตามความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยดูราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง เพราะกำลังการผลิตน้ำมันมีมาก และยังต้องติดตามนโยบายต่าง ๆ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ด้วย

ส่วนบ้านเราในสัปดาห์นี้จะต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 14 พ.ย.นี้ ซึ่งก็คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน แต่คงจะมีภาพที่ชัดขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway Down ซึ่งการปรับขึ้นของดัชนีฯคงจะเป็นไปได้ยากจากความไม่แน่นอนปัจจัยนอกประเทศ แต่ก็มีแรงประคองจากปัจจัยในประเทศ

พร้อมให้แนวรับ 1,660 จุด ส่วนแนวต้าน 1,675-1,680 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 858.25 ล้านบาท ปิดที่ 49.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

IVL มูลค่าการซื้อขาย 644.69 ล้านบาท ปิดที่ 55.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 441.29 ล้านบาท ปิดที่ 68.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 405.82 ล้านบาท ปิดที่ 137.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

PTG มูลค่าการซื้อขาย 402.48 ล้านบาท ปิดที่ 8.30 บาท ลดลง 0.65 บาท