posttoday

ปัจจัยต่างประเทศกดดัชนีหุ้นไทยปิดร่วง 38 จุด

11 ตุลาคม 2561

หุ้นไทยปิดที่ระดับ1,682.89 จุด ลดลง 38.93 จุด มูลค่าการซื้อขาย 82,888.83 ล้านบาท

หุ้นไทยปิดที่ระดับ1,682.89 จุด ลดลง 38.93 จุด มูลค่าการซื้อขาย 82,888.83 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 11 ต.ค. หุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน ก่อนปิดที่ระดับ 1,682.89 จุด ลดลง 38.93 จุด (-2.26%) มูลค่าการซื้อขาย 82,888.83 ล้านบาท โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,688.63 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,673.59 จุด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงแรงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบราว 3-6% แต่ตลาดบ้านเราถือว่าลงไปน้อยกว่าภูมิภาค ทั้งนี้เป็นไปตามตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ดิ่งลงไปกว่า 3% เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนปรับพอร์ตลดความเสี่ยงหลังจากสัญญาณความเสี่ยงสูงขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond Yield) กลับมาเร่งตัวขึ้น และทิศทางค่าเงินในเอเชียอ่อนค่า ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนเพิ่มเติม

วันนี้คาดว่านักลงทุนสถาบันคงจะกลับมาขายสุทธิหลังจากที่ได้ซื้อสุทธิ 2 วันที่ผ่านมา และต่างชาติยังคงขายต่อเนื่อง คาดว่า Fund Flow ก็ยังไหลออก พร้อมแนะติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯคืนนี้หากเร่งตัวขึ้นก็อาจดันให้ Bond Yield ปรับขึ้นไปได้อีก และคงนำไปสู่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งต้องติดตามทิศทางค่าเงิน รวมถึงการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/61 ของกลุ่มแบงก์

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (12 ต.ค.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยให้แนวรับ 1,665 จุด ส่วนแนวต้าน 1,690-1,700 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 8,280.00 ล้านบาท ปิดที่ 51.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,910.76 ล้านบาท ปิดที่ 67.25 บาท ลดลง 1.75 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,345.20 ล้านบาท ปิดที่ 146.00 บาท ลดลง 6.00 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,938.90 ล้านบาท ปิดที่ 77.00 บาท ลดลง 2.50 บาท

IVL มูลค่าการซื้อขาย 2,782.95 ล้านบาท ปิดที่ 57.00 บาท ลดลง 1.50 บาท