posttoday

วิกฤตค่าเงินตุรกีทุบหุ้นไทยปิดภาคเช้าร่วง19จุด

14 สิงหาคม 2561

หุ้นไทยปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,686.75 จุด ลดลง 19.21 จุด (-1.13%) มูลค่าการซื้อขาย 29,386.73 ล้านบาท

หุ้นไทยปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,686.75 จุด ลดลง 19.21 จุด (-1.13%) มูลค่าการซื้อขาย 29,386.73 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 14 ส.ค. หุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้าก่อนปิดที่ระดับ 1,686.75 จุด ลดลง 19.21 จุด (-1.13%) มูลค่าการซื้อขาย 29,386.73 ล้านบาท โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,693.83 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,684.00 จุด

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงตามคาด จากความกังวลวิกฤตค่าเงินในตุรกีที่อ่อนค่าเร็ว สาเหตุมาจากทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯและตุรกีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเมื่อวานนี้ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า แต่ตลาดบ้านเราได้ปิดทำการเมื่อวานนี้ ดังนั้นเช้านี้เปิดตลาดฯมาจึงปรับตัวลงชดเชย อย่างไรก็ดีเรื่องนี้ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อไทย ถ้าจะมีก็เพียง Sentiment และค่าเงินบาทที่อาจจะอ่อนค่าตามสกุลเงินในภูมิภาค ซึ่งก็อาจมีผลต่อ Fund Flow ได้ แต่เรื่องนี้ก็ยังประเมินไม่ได้ในขณะนี้ โดยยังต้องติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ต่อไป

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้บางส่วนได้ฟื้นตัวขึ้นมาได้ แต่ Emerging Market ยังน่ากังวลอยู่ โดยตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ และตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ยังปรับตัวลงอยู่ ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซียก็บวกได้เล็กน้อย

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังซบเซาอยู่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในตุรกีจะดีขึ้นได้หรือไม่ พร้อมให้แนวรับ 1,680 จุด ส่วนแนวต้าน 1,700 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,255.69 ล้านบาท ปิดที่ 69.25 บาท ลดลง 2.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,798.90 ล้านบาท ปิดที่ 51.25 บาท ลดลง 0.50 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,211.19 ล้านบาท ปิดที่ 81.75 บาท ลดลง 0.25 บาท

CPF มูลค่าการซื้อขาย 937.46 ล้านบาท ปิดที่ 25.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 875.76 ล้านบาท ปิดที่ 7.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท