DWทำสถิติสูงสุด8ปี

บล.บัวหลวง เผยไตรมาสแรกหุ้นผันผวนหนุน DW เทรดสูงสุดในประวัติการณ์ แนะนักลงทุนวิธีดู DW ราคาสูงเกินจริงด้วยตัวเอง

นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง (BLS) เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนหุ้นไทยในไตรมาสแรกของปีที่ผันผวนส่งผลให้นักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาเก็งกำไรในใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) จำนวนมากทำให้สัดส่วนของปริมาณการซื้อขาย DW ต่อปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ทุกประเภทสูงขึ้นเป็น 5.6% หรือสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2552 หรือทำสถิติสูงสุด 8 ปี นับแต่ที่สำนักงาน ก.ล.ต.อนุญาตให้มีการเสนอขาย DW ได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยกลุ่มหุ้นอ้างอิงที่นักลงทุนซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกอยู่ในกลุ่มดัชนีหลักทรัพย์ 47.5% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค 10.7% และกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 8.6%

“ไตรมาสแรกมีทั้งข่าวบวกและข่าวลบกระทบการลงทุน เช่น การลุยลงทุนของรัฐ การลดกำลังผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ค้าน้ำมัน (โอเปก) ข่าวลบคือการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ รวมถึงตลาดมีความกังวลเรื่องความโปร่งใสของบริษัท กรุ๊ปลีส (GL) ในการปล่อยกู้ให้ 2 บริษัทในประเทศสิงคโปร์และไซปรัส” 

สำหรับ DW ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็น DW ที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 มีการซื้อขายสูงถึง 47.5% ของการซื้อขาย DW ทั้งหมด อันดับ 2 เป็น DW อ้างอิงหุ้น GL มีสัดส่วนการซื้อขายสูงถึง 3.7%โดยนักลงทุนให้ความสนใจ Call DW ส่งผลให้ราคาซื้อขายในกระดานสูง เกินจริงมากกว่า 100% อันดับ 3 เป็น DW อ้างอิงหุ้น PTT มีสัดส่วนการซื้อขาย 3.6% โดยสนใจซื้อ Call DW หลังราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นรอบ 18 เดือน ที่ 58 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลช่วงเดือน ม.ค.

สำหรับ บล.บัวหลวง มีจำนวน DW สูงสุดในระบบคิดเป็น 15.90% ของจำนวน DW ที่มีการซื้อขายทั้งหมด มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 อยู่ที่ 34% และเป็นผู้ออกที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1โดยมุ่งมั่นจะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้นักลงทุนมีทางเลือกลงทุน

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรเลี่ยงการลงทุน DW ที่มีปัญหาได้ด้วยตนเอง โดยมีวิธีดูดังนี้ 1.DW มีราคาซื้อขายปัจจุบันสูงกว่าราคาที่เหมาะสมมาก 2.DW ที่หุ้นอ้างอิงถูกขึ้นเครื่องหมาย T1 โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย เงินสดเต็มจำนวน 3.DWที่เคลื่อนไหวไม่สอดคล้องกับราคาหุ้นอ้างอิงเช่นราคา หุ้นอ้างอิงลดลงมากๆ ในระหว่างวันแต่ราคา Call DW ไม่กระทบหรือปรับตัวขึ้น 4) DW มีปริมาณ Bid หรือ Offer Volume น้อยกว่าปกติมากๆ มีความไม่สม่ำเสมอในแต่ช่วงเวลาสะท้อนภาวะการซื้อขายที่อาจไม่อยู่ในการควบคุมของผู้ดูแลสภาพคล่อง