ไทยพาณิชย์ยันหุ้น1.7พันจุด ปลายปี'60

บล.ไทยพาณิชย์ ชี้ปีนี้ หุ้นไทย 1,700 จุด ไตรมาสแรกจะทะลุ 1,600 จุด เงินไหลเข้าต่อเนื่อง แนะเก็บหุ้น3กลุ่มหลัก

นายอิสระ อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกมีโอกาสที่จะเห็นหุ้นไทยทะลุ 1,600 จุดได้ ซึ่งหากมีปัจจัยลบที่เกินคาดมองว่าจะมีการปรับฐานในระยะสั้นและมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,391 จุด

ดัชนีหุ้นไทยปีนี้จะอยู่ที่ 1,700 จุด หรือราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น 14 เท่า โดยอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในรอบ 12 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ 107 บาท และมองดัชนีเคลื่อนไหวที่ 1,660-1,780 จุด สำหรับธีมการลงทุน 3 หุ้นหลัก คือ หุ้นกลุ่มธนาคาร พลังงานและ รับเหมาก่อสร้าง ที่ราคาหุ้นยัง ไม่ถึงราคาปัจจัยพื้นฐาน

ปัจจุบันยังไม่เห็นปัจจัยที่จะมีผลกระทบจิตวิทยาเชิงลบ แม้ตลาดจะรอการประกาศนโยบายอย่างเป็นทางการของ นายโดนัลล์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ แต่เชื่อว่าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะช่วงแรกต้องใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นหลักและ ไม่มีผลทำให้เกิดเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นรวดเร็ว จนเร่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

จากสถิติช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ไตรมาสแรกจะเป็นช่วงที่หุ้นมีการปรับตัวขึ้นทุกปี และสถิติรอบ 10 ปีที่ผ่านมา หุ้นไทยจะขึ้นในเดือน ก.พ.เสมอมา มีเพียง 1 ปีเท่านั้นที่หุ้นติดลบ ประกอบกับมองว่าเม็ดเงินต่างชาติจะไหลเข้าตลาดหุ้นไทยได้อีก เพราะเพิ่งมีเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาเพียงเกือบ 1 แสนล้านบาท จากที่ออกไปกว่า 3 แสนล้านบาทเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา

ปีนี้สภาพคล่องยังล้นโลก อยู่เพราะยุโรปและญี่ปุ่นยังมี การทำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญทุกประเทศมีการใช้นโยบายการคลังมากขึ้นด้วยการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกรวมกันกว่า 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นของสหรัฐแล้วกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้แต่ละประเทศมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดี

ขณะที่การลงทุนภาครัฐของไทยคาดว่าจะมีการลงทุน 4.6 แสนล้านบาท น้อยกว่าที่ตลาดมอง 8-9 แสนล้านบาท โดยสิ้นปี 2559 มีการประมูลทั้งหมด 3 แสนล้านบาท โดยไม่ได้มีการลงทุนอย่างนี้ในรอบ 7-8 ปี ที่ผ่านมา

หุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,572.93 จุด เพิ่มขึ้น 0.83 จุด หรือ 0.05% มูลค่าการซื้อขาย 65,411.82 ล้านบาท ดัชนีผันผวน โดยปรับเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าและช่วงท้ายตลาดภาคบ่ายมีแรงขายออกมาทำให้ดัชนีปรับลดลง

แต่ยังยืนแดนบวกได้เล็กน้อย ทั้งนี้ คาดว่าแรงขายที่เกิดขึ้นมาจากการลดความเสี่ยงของนักลงทุน