กลต.ออกโรงจี้JASแจงเบี้ยวจ่ายค่าประมูลคลื่น900

JAS แจง ก.ล.ต.ย้ำกรณีเบี้ยวจ่ายไลเซ่นส์ รับผิดชอบแค่ถูกริบเงินประกัน ยัน ธุรกิจยังเดินได้ปกติไม่ได้รับผลกระทบ

บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ได้ชี้แจงสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตามที่ ก.ล.ต.ได้มีหนังสือขอให้บริษัทฯ ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการประมูลของ บริษัทแจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด 

JAS ได้ชี้แจง ก.ล.ต.เหมือนกับที่ได้ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ไปเมื่อวันที่ 22 มี.ค.59 บ.แจสโมบาย ไม่ได้ไปรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 MHz. จาก กสทช. เนื่องจากในวันที่ 21 มี.ค.59 "แจสโมบาย" ไม่สามารถนำหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงิน มามอบให้แก่ กสทช. ได้ เนื่องจากผู้ประกอบการรายใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศจีน (ซึ่งสนใจร่วมลงทุนในบริษัท แจสโมบาย และได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารพาณิชย์แห่งใหญ่ของประเทศจีน) ติดข้อจากัดในเรื่องของระยะเวลาในการขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องของประเทศจีนซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนเมษายน 2559 ซึ่งไม่ทันกำหนดระยะเวลา 90 วันตามที่ระบุในประกาศ กสทช.

ขณะที่ กสทช. ก็ไม่สามารถผ่อนปรน หรือผ่อนผันเงื่อนไขเกี่ยวกับระยะเวลาใดๆ ตามที่ระบุไว้ในประกาศ กสทช.ดังกล่าวให้แก่บริษัท แจสโมบายได้ ทำให้บริษัท แจสโมบาย ไม่สามารถนาหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินจำนวนประมาณ 72,000 ล้านบาท มามอบให้แก่สำนักงาน กสทช. ได้ตามกำหนดเวลา

ที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทฯ ให้ความเห็นว่า ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว  บริษัท แจสโมบาย ต้องถูกริบเงินประกันการประมูลจำนวน 644 ล้านบาท โดยที่ JAS และ  บริษัท แจสโมบาย ไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดในค่าเสียหายใดๆ เพิ่มเติม  และเหตุดังกล่าวนี้ ก็ไม่ได้เป็นเหตุเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมอื่นๆ ที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับจากสำนักงาน กสทช. และใช้ประกอบกิจการอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ยังสามารถดำเนินการได้โดยไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น

จำนวนเงินประกันการประมูลดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานะทางการเงิน เนื่องจากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวมของบริษัทฯ แล้ว คิดเป็นเพียง  1.27% เท่านั้น

JAS แจ้งเพิ่มเติมอีก 2 ประเด็นเรื่องการจ่ายเงินปันผล และการซื้อหุ้นคืน ว่าตามหนังสือที่อ้างถึง ข้อ 5 บริษัทฯ ขอเรียนว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 25มกราคม 2559 อนุมัติให้การจ่ายเงินปันผลประจาปี 2558 แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท รวมเป็นจานวนเงิน2,140.059 ล้านบาท และบริษัทฯ ได้นาเรียนสานักงาน กลต. ตามหนังสือของบริษัทฯ ที่ RC 007/59 ลงวันที่ 25มกราคม 2559

ตามหนังสือที่อ้างถึง ข้อ 6 เป็นการซื้อหุ้นคืนของบริษัทฯ โดยคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2559 และบริษัทฯ ได้นาเรียนสานักงาน กลต. ตามหนังสือของบริษัทฯ ที่ RC010/59 ลงวันที่ 7 มีนาคม 2559 เนื่องจากการซื้อหุ้นคืนคิดเป็นร้อยละ 16.82 ของหุ้นที่จาหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ซึ่งเกินกว่าร้อยละ 10 จะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งได้กำหนดวันไว้แล้ว คือ วันที่ 29 เมษายน2559