posttoday

หุ้นไทยปิดตลาดเช้า 15 ธ.ค. พุ่ง 19.15 จุด

15 ธันวาคม 2558

ตลาดหุ้นช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,286.76 จุด เพิ่มขึ้น 19.15 จุด มูลค่าการซื้อขาย 24,063.86 ล้านบาท

ตลาดหุ้นช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,286.76 จุด เพิ่มขึ้น 19.15 จุด มูลค่าการซื้อขาย 24,063.86 ล้านบาท

ตลาดหุ้นซื้อขายภาคเช้าวันที่ 15 ธ.ค. 2558 ปิด  1,286.76 จุด เพิ่มขึ้น 19.15 จุด (+1.51%) มูลค่าซื้อขาย 24,063.86  ล้านบาท ทั้งนี้ตลาดหุ้นได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันและดัชนีดาวโจนส์

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก

ADVANC    มูลค่าการซื้อขาย 2,403.13 ล้านบาท ปิดที่  208.00 บาท เพิ่มขึ้น 14.00 บาท
CPALL     มูลค่าการซื้อขาย 1,038.77 ล้านบาท ปิดที่   41.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
KBANK     มูลค่าการซื้อขาย 1,027.18 ล้านบาท ปิดที่  153.00 บาท เพิ่มขึ้น  1.00 บาท         
PTT       มูลค่าการซื้อขาย   988.12 ล้านบาท ปิดที่  228.00 บาท เพิ่มขึ้น  4.00 บาท
TRUE      มูลค่าการซื้อขาย   986.36 ล้านบาท ปิดที่    7.75 บาท เพิ่มขึ้น  0.55 บาท

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า เช้าหุ้นเช้าวันนี้ ได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดบวกกว่า 100 จุด  และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ฟื้นตัวปิดบวกเกือบ 2% โดยนักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์จาก EIA ที่จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้อยู่ (16 ธ.ค.) ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้หลายแห่งเริ่มมีจังหวะบวกกลับได้อีกครั้ง ซึ่งน่าจะกระตุ้นแรงซื้อในตลาดหุ้นไทยได้ด้วย

อย่างไรก็ตามยังต้องระวังการแกว่งตัวผันผวนของ SET ด้วย นักลงทุนบางส่วนยังคงรอติดตามผลการประมูลคลื่น 900MHz ที่จะเริ่มตั้งแต่ 9 โมงเช้าวันนี้ว่าจะมีการแข่งขันสูงมากเพียงใด รวมทั้งรอลุ้นผลประชุมเฟด (15-16 ธ.ค.) ว่าจะออกมารูปแบบใดด้วย    

บล.ซีมีโก้ กล่าวว่า  ดัชนีฯ ผันผวนในกรอบจำกัด แนวรับ 1258/1250 จุด แนวต้าน 1278/1285 จุด  กลุ่มพลังงานอาจรีบาวด์ได้ต่อเนื่องจากวานนี้ หลังราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวได้บ้าง ประกอบกับแรงซื้อจากเม็ดเงิน LTF/RMF ที่มีเข้ามาให้เห็นเป็นวันแรกวานนี้ แม้จะยังไม่มากนักแต่สามารถช่วยพยุงตลาดได้บ้าง อย่างไรก็ดี การรีบาวด์อาจยังไปได้ไม่ไกลนัก เนื่องจากนักลงยังรอดูผลการประชุมเฟดในวันพรุ่งนี้ ส่วนปัจจัยในประเทศวันนี้จะมีการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 MHz ซึ่งต้องจับตาว่าจะมีการแข่งขันรุนแรงตามที่ตลาดคาดหรือไม่ (หากรุนแรงจะยังกดดันกลุ่มสื่อสารต่อเนื่อง)