posttoday

ว่าด้วยเรื่องทองคำ

20 พฤศจิกายน 2558

โดย เอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอกการลงทุน

โดย เอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอกการลงทุน

ไม่บ่อยนักที่ผมจะเขียนเรื่องทองคำ เหตุผลที่สำคัญก็คือ โดยส่วนตัวผมเองเติบโตกับการทำงานมาในสายงานหุ้น และก็มีความเชื่อว่า เรื่องเหล่านี้ เป็นความสามารถเฉพาะทาง มิเช่นนั้นเราจะเห็นคนที่เรียนจบปริญญาเอกทางการเงิน และมาเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้น การเลือกการลงทุนในประเทศไทย แม้ระยะหลังมีการเปิดกว้างมากขึ้น มีทั้งการลงทุนในตลาดหุ้น,ตลาดอนุพันธ์ หรือ ตลาดทองคำ  และยังมีอื่นอีกมากมาย ในส่วนตัวของผู้เขียนไม่เชื่อว่า ทุกคนสามารถรู้จริงได้ทุกอย่างความถนัดในการลงทุนแต่ละประเภทจะแตกต่างกัน  ผลตอบแทนและความเสี่ยงก็แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น หุ้นส่วนใหญ่จะดูปัจจัยจากกำไร หรือ เรื่องอนาคตของบริษัท แต่ทองคำ อาศัยเรื่องของปัจจัย ส่วนอนุพันธ์ เป็นลักษณะการเก็งกำไรมากๆ จนบางครั้งเป็นลักษณะของการพนัน เพราะฉะนั้น จะนำเอาให้การลงทุนแต่ละแบบ ให้วิเคราะห์เหมือนกันจะเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น ผมจึงเน้นในเรื่องของการวิเคราะห์หุ้นเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีประสบการณ์ตรงในด้านนี้มาตลอดชีวิติการทำงาน

แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์ล่าสุดราคาทองคำ เกิดการปรับตัวลดลงมาแรง จนทำให้หลายครั้งรายการทีวีที่ผมมีการจัดซึ่งส่วนใหญ่เน้นเกี่ยวกับการลงทุนตลาดหุ้น หันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับการลงทุนทองคำ ตัวเลขล่าสุด ณ.ขณะเขียนบทความ อยู่ที่ตัวเลข ประมาณ 1080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คำถามว่า ราคาทองคำ ณ.ขณะนี้เป็นอย่างไร ผมพยายามสอบถามและหาข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญถึงราคาหน้าเหมือง ขยายความง่ายๆ ก็คือ ต้นทุนที่แท้จริงในการทำเหมืองทองคำ ปรากฏว่า ได้คำตอบที่แตกต่างกัน เฉลี่ยอยู่ที่ 750-1200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ความแตกต่างที่เกิดขึ้น ขึ้นอยู่กับอายุของเหมือง ต้นทุนแปรผัน และต้นทุนอื่นๆ กล่าวคือ เหมืองที่เปิดมานานการถึงจุดคุ้มทุนไปก่อนหน้านี้ ก็จะทำให้ต้นทุนราคาทองคำถูกกว่า เพราะฉะนั้น จากเหตุผลดังกล่าวไม่สามารถระบุได้แน่นอนว่า ต้นทุนที่แท้จริงของเหมืองจะอยู่เท่าไร แต่จากเหตุการณ์การปรับตัวลดลงของทองคำมีเหมืองทองคำที่ทำแล้วไม่คุ้มทุน ก็ได้มีการปิดจึงได้มีการเข้ากลไกอุปสงค์อุปทานเบื้องต้น เพราะฉะนั้น จากเหตุผลดังกล่าว จึงมีการอนุมาณว่า ราคาหน้าเหมืองจะอยู่ที่ประมาณ 900-1100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และถ้านำเอามาเป็นค่าเฉลี่ยตัวเลขกลมๆ ก็จะได้ราคาหน้าเหมืองที่ประมาณ 1000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ตัวเลขดังกล่าวจะไม่ตรงทีเดียว แต่ก็นำมากำหนดในเชิงกลยุทธ์ได้

นอกจากราคาหน้าเหมืองแล้วอีกปัจจัยหนึ่งที่คิดว่า มีผลต่อการลงทุนไม่แพ้กันก็คือ การขึ้นดอกเบี้ยของ FOMC ซึ่งประเมินว่า น่าจะมีการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในเดือนธันวาคม และอาจจะมีการขึ้นอีก 1-2 ครั้งในช่วง ปีกว่าๆ ต่อจากนี้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวจะมากหรือน้อยตามตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเบสิกก็คือ กรณีดอกเบี้ยขึ้นค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะมีการแข็งค่าขึ้น ทองคำมักจะตก แปลง่ายๆก็คือ กรณีเราคาดว่า ดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะขึ้นต้องสันนิฐานว่า ทองคำจะตกลง

นอกเหนือปัจจัยหลักดังกล่าว ปัจจัยอื่นๆคาดว่า จะเป็นปัจจัยรองไปหมดไม่ว่า เรื่องของความต้องการในการใช้หรือเรื่องๆ อื่นๆ ส่วนตัวผมให้ความสำคัญมากขึ้นในเรื่องของการวิเคราะห์ทางเทคนิคของราคาทองคำ เหตุผลก็เนื่องจากทองคำในยุคปัจจุบันได้กลายเป็นสินค้าสำหรับการซื้อขายเก็งกำไรกันอย่างแพร่หลาย และเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความนิยมกันเนื่องจากคาดกันว่า การสร้างราคาค่อนข้างยาก และมีสภาพคล่องมหาศาล ปัจจัยที่เกิดขึ้นมีการรับรู้พร้อมๆ กัน การใช้กราฟการวิเคราะห์เทคนิคจึงเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ให้ความสำคัญมากๆ ซึ่งเมื่อมาพิจารณาแนวโน้มราคาทองคำ ในเชิงการวิเคราะห์ทางเทคนิค จะพบว่า ภาพระยะกลาง 3-6 เดือน จุดต่ำที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงต่อจากนี้ไปมีโอกาสจะเกิดต่ำสุดที่ 930-1000 โดยคาดว่า ช่วงเวลาปัจจุบันเป็นช่วงเวลาท้ายๆในการปรับตัวลดลง แปลว่า นักลงทุนระยะกลางควรอาศัยช่วงเวลาจากนี้ไป และไม่เกินไตรมาส 2 ปีหน้าเป็นช่วงเวลาในการซื้อทองคำเก็บเพื่อการลงทุน โดยเฉพาะเมื่อมีตัวเลขใกล้ 1000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ยกเว้นระยะสั้นการกำลังมายืน 1080-1100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะแสดงให้เห็นว่า การดีดกลับจะเกิดขึ้น

บทสรุป จากปัจจัยที่กล่าวข้างต้น คาดว่า ราคาทองคำในระยะกลาง-ยาว ได้เดินทางมาถึงจุดต่ำที่น่าลงทุน และอาศัยตัวเลข 1000 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นหลัก อาจจะบวกลบจากตัวเลขดังกล่าวได้เล็กน้อย และคาดว่า ระยะเวลาช่วงเวลาปัจจุบันจนถึงไตรมาส 2 ปีหน้า น่าจะเป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจ ในการเข้าลงทุน และสำหรับท่านที่สนใจจะลงทุนทองคำแท่งไม่ว่า รูปแบบ 96.5 หรือ 99.99 เป็นการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนท่าน ก็ใกล้ถึงเวลาในการเข้าซื้อเช่นกันโดยคาดว่า ราคาทองคำในไทย น่าจะอยู่ในระดับต่ำกว่า 18000 แต่ไม่ต่ำกว่า 16500

หมายเหตุ เสาร์ที่ 28พฤศจิกายน นี้เวลา 9.00 น. – 12.00 น. ที่สมาคมศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ มีงานสัมมนาประจำเดือนของ บลป. เอกการลงทุน ซึ่งจะจัดเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้  ท่านใดที่สนใจเรียนเชิญ จองได้ที่ เบอร์ 081-7838888 หรือ ที่ http://www.aekinvestment.com/