โพยหุ้นได้ดีเศรษฐกิจดิจิทัล

กูรูชี้กลุ่มวางระบบโครงสร้าง-รับเหมาเล่นได้ยาว 1-2 ปี กลุ่มโอเปอเรเตอร์ จบข่าว 4จี

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการสายงาน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยในงานเสวนา “ค้นหาธุรกิจเด่น หุ้นสดใส ด้วยนโยบาย Digital Economy” ว่า กลุ่มไอซีทียังมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ เพราะเป็นกลุ่มที่สะท้อนปัจจัยพื้นฐาน ได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง

ทั้งนี้ มองว่าหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจดิจิทัลในช่วงแรกมีอยู่ 2 กลุ่มหลัก แต่เหมาะสมที่จะซื้อเพื่อลงทุนในระยะยาวประมาณ 1-2 ปี คือ กลุ่มผู้ให้บริการวางระบบ ได้แก่ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (AIT) บริษัท สามารถเทลคอม (SAMTEL) บริษัท ล็อกซ เล่ย์ (LOXLEY) บริษัท เจทีเอส ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS)

สำหรับหุ้นกลุ่มที่ขายอุปกรณ์หรือรับเหมาก็ได้ประโยชน์  อย่าง บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น (CSS) ที่ทำการติดตั้งเสาโทรคมนาคม บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) ขายไฟเบอร์และดาต้าเซ็นเตอร์ และ บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค (SCI) ที่ทำงานวิศวกรรมไฟฟ้า และกลุ่ม
ผู้ให้บริการโครงข่าย อย่างบริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น (SYMC)

สำหรับหุ้นกลุ่มโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ถือว่าจะหมดความน่าสนใจแล้ว เนื่องจากเดือน พ.ย. การประมูลคลื่น 900 และ 1800 เมกะเฮิรตซ์ กำลังจะจบในเดือน พ.ย.นี้ ล่าสุดบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ลดลง 1 บาท ปิดที่ 238 บาท

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนะนำหุ้นอยู่ 3 ตัว คือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เพราะเป็นบริษัทโอเปอเรเตอร์แห่งเดียวที่มีการพัฒนาเรื่องนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านเนื้อหา ข้อมูล หรือระบบ เพียงแต่ที่ผ่านมาเป็นเรื่องของต้นทุนการบริหารงานที่เกิดจากการลงทุนที่มองการณ์ไกลมาเป็นสิบปี ส่งผลต่อต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทมาโดยตลอด แต่ก็เชื่อว่าภายในอีก 3-5 ปีนี้ TRUE จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการได้พันธมิตรอย่างไชน่าโมบายเข้ามา ทำให้มีความสามารถในการพัฒนาและซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ในราคาที่ดีได้ ขณะที่มั่นใจว่าส่วนแบ่งการตลาดทรูน่าจะได้ประโยชน์มากที่สุด แม้คู่แข่งจะมีการพัฒนาตามมา แต่ถือว่าการดำเนินธุรกิจยังมีขนาดที่เล็กอยู่ แม้จะไม่ได้ประโยชน์จากที่จะมีการประมูลคลื่น 900 และ 1800 เมกะเฮิรตซ์ นี้

สำหรับกลุ่มธุรกิจอื่นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์คือ กลุ่มโลจิสติกส์ ซึ่งแนะนำบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) แม้ตอนนี้จะได้รับผลกระทบระยะสั้นจากค่าใช้จ่ายในการซื้อบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) ไป แต่คาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้นในปีหน้า กลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งจะมีบริษัทได้ที่มีการดำเนินงานที่ชัดเจนน้อยมาก และแนะนำบริษัท ซีโอแอล (COL) ซึ่งเป็นบริษัทลูกในเครือกลุ่มเซ็นทรัล