กรุงไทยมองหุ้นแย่สุด1,250
บลจ.กรุงไทย มองหุ้นไทยลงได้อีก เล็งดัชนีต่ำสุด 1,250 จุด หั่นเป้าปีนี้เหลือ 1,410 จุด ยังหวังการลงทุนภาครัฐ
บลจ.กรุงไทย มองหุ้นไทยลงได้อีก เล็งดัชนีต่ำสุด 1,250 จุด หั่นเป้าปีนี้เหลือ 1,410 จุด ยังหวังการลงทุนภาครัฐ
นายวีระ วุฒิคงศิริกูล รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ยังคงมีความผันผวนสูงและมีโอกาสที่จะปรับลดลงได้อีก โดยคาดว่าอาจจะลงไปได้ถึง 1,250 จุด
“คงจะใช้เวลาอีกสักระยะกว่าที่นักลงทุนจะหายตื่นตระหนก และถ้านักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อไปอีก ตลาดหุ้นไทยก็ยังลดลงได้อีกเล็กน้อย เพราะนักลงทุนต่างชาติยังเหลือเงินลงทุนในไทยไม่มาก และไม่ได้นำเม็ดเงินใหม่เข้ามาลงทุน” นายวีระ กล่าว
นายวีระ กล่าวอีกว่า บลจ.กรุงไทย ยังปรับลดเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้เหลือ 1,410 จุด และปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเหลือ 2.7% โดยเชื่อว่าการลงทุนภาครัฐจะเริ่มเดินหน้าได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ และบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งมีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ ทำให้คาดว่าบริษัทจดทะเบียนจะมีกำไร 94-95 บาท/หุ้นในปีนี้
ขณะที่แนวโน้มผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศปรับตัวลดลงเกือบทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะอายุคงเหลือตั้งแต่ 4 ปี โดยมีแรงซื้อจากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากเหตุระเบิดที่ราชประสงค์และการลดค่าเงินหยวนของจีน ซึ่งอาจนำไปสู่การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
เช่นเดียวกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุ ตามความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นทั่วโลก และอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ปรับดอกเบี้ยขึ้นในเดือน ก.ย.นี้
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ คือ นโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจของทีมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดใหม่ การเคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศ และการเคลื่อนไหวของตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ
ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 26 ส.ค.-1 ก.ย. 2558 บลจ.กรุงไทย เปิดขายกองทุนกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 30 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ คาดว่าจะให้ผลตอบแทนสุทธิประมาณ 1.9% ต่อปี
พร้อมกันนี้ อยู่ในระหว่างเปิดขายกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือน คุ้มครองเงินต้น 3 ถึงวันที่ 28 ส.ค. 2558 เน้นลงทุนพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยและเงินฝากในประเทศ คาดว่าจะให้ผลตอบแทนสุทธิประมาณ 1.1% ต่อปี