posttoday

นักวิชาการชี้คนรุ่นใหม่อยากเกษียณเร็วแต่ไม่เริ่มออม

29 กันยายน 2557

นักวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าเผย กลุ่มแรงงานรุ่นใหม่อยากเกษียณก่อนกำหนด แต่ไม่เคยวางแผนการเงิน

นักวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าเผย กลุ่มแรงงานรุ่นใหม่อยากเกษียณก่อนกำหนด แต่ไม่เคยวางแผนการเงิน

นายบุญเลิศ จิตรมณีโรจน์ นักวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อการประเมินและออกแบบนโยบาย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ในงานวิจัยเรื่องการเตรียมความพร้อมสำหรับการวางแผนทางการเงินเพื่อวัยเกษียณของกลุ่มแรงงานในระบบช่วงอายุ 25-39 ปี พบว่า 33% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ต้องการเกษียณก่อนกำหนด แต่เมื่อคำนวณเงินออมสำหรับวัยเกษียณแล้ว 59% ของคนที่ต้องการเกษียณก่อนกำหนดจะมีเงินไม่เพียงพอสำหรับใช้จ่ายในวัยเกษียณ 

นอกจากนี้ ยังพบว่า 59% ของผู้ตอบแบบสอบถามเคยมีประสบการณ์ในการวางแผนเพื่อการเกษียณ แต่ในจำนวนนี้มีเพียง 50% เท่านั้นที่สามารถออมเงินตามแผนที่วางไว้ได้อย่างสม่ำเสมอ ขณะที่อีก 41% ไม่เคยมีประสบการณ์ในการวางแผนเพื่อการเกษียณ แต่ 74% ของคนที่ไม่เคยวางแผนเพื่อการเกษียณมั่นใจว่า จะมีคุณภาพชีวิตที่ใกล้เคียงปัจจุบันหรือดีกว่า

“ผู้ตอบแบบสอบถามมีความมั่นใจมากเกินไปว่า หลังจากเกษียณอายุแล้วจะมีคุณภาพชีวิตที่ใกล้เคียงกับปัจจุบันหรือดีกว่าปัจจุบัน ทั้งๆ ที่ไม่เคยวางแผนการเงินมาก่อน”นายบุญเลิศ กล่าว

นายบุญเลิศ ยังกล่าวอีกว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่เคยได้รับความรู้ มีความเข้าใจและเคยวางแผนเพื่อการเกษียณ จะมีเงินออมส่วนเกิน ณ วันเกษียณมากกว่าคนที่ขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งมากถึง 4.27 ล้านบาท

ขณะที่โดยเฉลี่ยแล้วจะเริ่มต้นวางแผนเพื่อการเกษียณเมื่ออายุ 33 ปี

พร้อมกันนี นายบุญเลิศ เสนอว่า ภาครัฐควรเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) มากกว่ากองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เพื่อสนับสนุนให้มีการลงทุนเพื่อการเกษียณมากขึ้น

ทั้งนี้  94% ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่ลงทุน ในกองทุน RMF

“การลงทุนใน RMF ควรได้สิทธิภาษีมากกว่า LTF เนื่องจากเป็นการลงทุนที่สำคัญมากกว่า และเมื่อกองทุนทั้งสองประเภทได้สิทธิประโยชน์ภาษีเท่ากันทำให้คนลงทุนใน LTF จนไม่มีเงินมาลงทุนใน RMF เพราะ LTF เป็นการลงทุนระยะสั้นกว่า” นายบุญเลิศ กล่าว