posttoday

คาดเอกชนออกหุ้นปีนี้ 6แสนล้านทำสถิติสูงสุดใหม่

08 กรกฎาคม 2557

เอกชนออกหุ้นกู้ปีนี้ 6 แสนล้านทำสถิติสูงสุดรับเศรษฐกิจฟื้นล็อกต้นทุนหลังดอกเบี้ยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุนนอกไหลกลับรับโรดแมป

เอกชนออกหุ้นกู้ปีนี้ 6 แสนล้านทำสถิติสูงสุดรับเศรษฐกิจฟื้นล็อกต้นทุนหลังดอกเบี้ยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุนนอกไหลกลับรับโรดแมป

นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(thaiBMA)เปิดเผยว่า แนวโน้มการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนในปีนี้ น่าจะมีมูลค่ามากถึง 6 แสนล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง จาก เมื่อปี2555 ที่เคยสูงสุดที่ 5.09 แสนล้านบาท และมากกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่ง เอกชนออกหุ้นกู้ไป 4.18 แสนล้านบาท และมากกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่ 4.5 แสนล้านบาท

"ครึ่งปีหลังเอกชนน่าจะออกหุ้นกู้อีก 3แสนล้านบาท จากครึ่งปีแรกที่ออกไปแล้ว 2.98 แสนล้านบาท เพราะเอกชนใช้จังหวะที่ ดอกเบี้ยต่ำระดมเงินไว้พร้อมรองรับเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวก็สามารถเกาะการฟื้นตัวได้ทันทีซึ่งขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มมีการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้น"นายธาดากล่าว

อย่างไรก็ตามส่วนกลุ่มที่ออกนั้นมีคละกันไปทั้งในส่วนของภาคธุรกิจที่แท้จริง ทั้งในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ พลังงาน สื่อสาร และจะเห็นธนาคารพาณิชย์ที่จะเห็นมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังหลังจากเกณฑ์บราเซิล III มีความชัดเจน รวมถึงยังมีผู้ออกเดิมที่จะมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ้ถอนในช่วงครึ่งปีหลังกว่า 1แสนล้านบาทด้วย ซึ่งครึ่งปีแรกจะเห็นว่าธุรกิจพลังงานออกหุ้นกู้มากสุด 6.8 หมื่นล้านบาท กลุ่มพาณิชย์ 4.4 หมื่นล้านบาท ธนาคาร 4.2 หมื่นล้านบาท อสังหาริมทรัพย์3.32 หมื่นล้านบาท และธุรกิจเช่าซื้อ2.79หมื่นล้านบาท

“แม้ว่าขณะนี้มองว่าดอกเบี้ยนโยบาย ยัง ทรงตัวไปในระดับ 2%แต่การที่เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวและมีสัญญาณที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสแรกหรือกลางปี 2558ก็มีโอกาสที่ดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นได้”

สำหรับในส่วนของนักลงทุนต่างชาติก็คาดหวังว่าจะไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไทยมากขึ้นและสิ้นปีน่าพลิกกลับมาติดลบเล็กน้อยหรือเป็นบวกได้จากครึ่งปีแรกต่างชาติขายสุทธิอยู่ 3.9 หมื่นล้านบาท เพราะภายหลังจากรัฐประหารและประเทศไทยมีการบริหารภายใต้คณะกรรมการรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช) และได้มีการประกาศโรดแมปอย่างชัดเจนทำให้เงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาซื้อสุทธิเฉพาะเดือนมิ.ย.เดือนเดียวถึง 3.08 หมื่นล้านบาท

"ตั้งแต่มีปัญหาการเมืองต่างชาติ ขายหนักต่อเนื่องตั้งแต่เดือน มค. และขายหนักมากถึง 6.5 หมื่นล้าน ในเดือนพ.ค.ในช่วงที่ศาลรัฐธรรมตัดสินคดีนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุกจริตแห่งชาติ (ปปช.) ชี้มูลกรณีจำนำข้าว แต่หลังรัฐประหารและ คสช. ประกาศ โรดแมป ชัดก็ทำให้ต่างชาติเกิดความมั่นใจเพราะเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เลยกลับมาซื้อสุทธิในเดือนมิ.ย. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าต่างชาติยังมีความสนใจตลาดตราสารหนี้ไทยแม้ว่าเราจะมีการรัฐประหารก็ตาม"

ทั้งนี้ในส่วนของยอดถือครองสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ ณ สิ้นมิ.ย.อยู่ที่ 6.7 แสนล้านบาทลดลงจากสิ้นปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 7.09 แสนล้านบาทซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐและรวมถึงปัญหาการเมืองในไทยด้วย

นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานกรรมการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กล่าวว่า  สัดส่วนการถือของตราสารหนี้ไทยของนักลงทุนต่างชาติในระดับ 7.27%ของมูลค่าคงค้างทั้งหมดถือว่าเป็นระดับที่เหมาะสมแล้วเพราถ้าหากถือในสัดส่วนที่มากเกินไปเมื่อมีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดภาวะตื่นตระหนกก็จะทำให้มีปัญหาเงินทุนไหลออกได้แต่ถ้าตลาดเป็นเงินทุนของนักลงทุนในประเทศกันเองก็จะทำให้มีความสมดุลและมีเสถียรภาพด้วย ซึ่งมองว่าการไหลกลับมาของนักลงทุนต่างชาติก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกด้วยถ้าเศรษฐกิจสหรัฐดี ดอกเบี้ยขึ้นก็เป็นตัวผลักให้เงินไหลกลับไปรวมถึงปัจจัยในประเทศเทศด้วยหากเรามีพัฒนาการแก้ไขปัญหาด้านต่างๆที่ดีก็มีโอกาสดึงเงินกลับได้เช่นกัน